ฝาย (Check Dam) เป็นแนวพระราชดำริ
ทฤษฎีการพัฒนาและฟื้นฟูป่าไม้
โดยการใช้ทรัพยากรที่เอื้ออำนวยสัมพันธ์ซึ่งกันและกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนัก
ถึงความสำคัญของการอยู่รอดของป่าไม้ ซึ่งปัญหาสำคัญ
ที่เป็นตัวแปรแห่งความอยู่รอดของป่าไม้นั้น คือ น้ำ
อันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงเสนออุปกรณ์
อันเป็นเครื่องมือที่จะใช้ประโยชน์ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าไม้ที่ได้ผลดี
และ ทรงแนะนำให้ใช้ฝายกั้นน้ำ หรือเรียกว่า Check Dam หรือ
อาจเรียกว่า ฝายชะลอความชุ่มชื้น ก็ได้เช่นกัน
ฝายหรือ Check Dam คือสิ่งก่อสร้างขวาง
หรือกั้นทางน้ำ ซึ่งปกติมักจะกั้นลำห้วย
ลำธารขนาดเล็กในบริเวณที่เป็นต้นน้ำ หรือ
พื้นที่ที่มีความลาดชันสูงให้สามารถกักตะกอนอยู่ได้ และ
หากช่วงที่น้ำไหลแรงก็สามารถชะลอการไหลของน้ำให้ช้าลง และ
กักเก็บตะกอนไม่ให้ไหล ลงไปทับถมลำน้ำตอนล่าง
ซึ่งเป็นวิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำได้ดีมากวิธีการหนึ่ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานคำอธิบายว่า
การปลูกป่าทดแทนพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกทำลายนั้น "...จะต้องสร้างฝายเล็กเพื่อหมุนน้ำส่งไปตามเหมืองไปใช้ในพื้นที่เพาะปลูกทั้งสองด้าน
ซึ่งจะให้ค่อยๆ แผ่ขยายออกไปทำความชุ่มชื้น
ในบริเวณนั้นด้วย
"
รูปแบบและลักษณะ Check Dam นั้น ได้พระราชทานพระราชดำรัสว่า "...ให้พิจารณาดำเนินการสร้างฝายราคาประหยัด
โดยใช้วัสดุราคาถูกและหาง่ายในท้องถิ่น เช่น
แบบหินทิ้งคลุมด้วยตาข่ายปิดกั้นร่องน้ำกับลำธารขนาดเล็กเป็นระยะๆ
เพื่อใช้เก็บกักน้ำและตะกอนดินไว้บางส่วน
โดยน้ำที่กักเก็บไว้จะซึมเข้าไปในดินทำให้ความชุ่มชื้นแผ่ขยายออกไปทั้งสองข้าง
ต่อไปจะสามารถปลูกพันธุ์ไม้ป้องกันไฟ
พันธ์ไม้โตเร็วและพันธุ์ไม้ไม่ทิ้งใบ
เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ต้นน้ำลำธารให้มีสภาพเขียวชอุ่มขึ้นเป็นลำดับ
"
การก่อสร้าง Check Dam
นั้นได้พระราชทานพระราชดำริเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า
"...สำหรับ Check Dam
ชนิดป้องกันไม่ให้ทรายไหลลงไปในอ่างใหญ่จะต้องทำให้ดีและลึก
เพราะทรายลงมากจะกักเก็บไว้ ถ้าน้ำตื้นทรายจะข้ามไปลงอ่างใหญ่ได้
ถ้าเป็น Check Dam
สำหรับรักษาความชุ่มชื้นไม่จำเป็นต้องขุดลึกเพียงแต่กักน้ำให้ลงไปในดิน
แต่แบบกักทรายนี้จะต้องทำให้ลึกและออกแบบอย่างไรไม่ให้น้ำลงมาแล้วไล่ทรายออกไป
"
การพิจารณาสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น
เพื่อสร้างระบบวงจรน้ำแก่ป่าไม้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น
ได้พระราชทานแนวพระราชดำริว่า "...ให้ดำเนินการสำรวจหาทำเลสร้างฝายต้นน้ำลำธารในระดับที่สูงใกล้บริเวณยอดเขามากที่สุด
เท่าที่จะเป็นไปได้ ลักษณะของฝายดังกล่าวจำเป็นต้องออกแบบใหม่
เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ ได้ปริมาณน้ำหล่อเลี้ยง
และประคับประคองกล้าไม้พันธุ์ที่แข็งแรง และโตเร็ว
ที่ใช้ปลูกแซมในป่าแห้งแล้งอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง
โดยการจ่ายน้ำออกไปรอบ ๆ ตัวฝายจนสามารถตั้งตัวได้
"
ประเภทของ Check Dam นั้น ทรงแยกออกเป็น 2
ประเภทดังพระราชดำรัส คือ "...Check Dam มี 2 อย่าง
ชนิดหนึ่งสำหรับให้มีความชุ่มชื้นรักษาความชุ่มชื้น
อีกอย่างสำหรับป้องกันมิให้ทรายลงในอ่างใหญ่
จึงอาจกล่าวได้ว่า
Check Dam นั้นประเภทแรก คือ
ฝายต้นน้ำลำธารหรือฝายชะลอความชุ่มชื้น
ส่วนประเภทที่สองนั้นเป็นฝายดักตะกอนนั่นเอง"
รูปแบบของ Check Dam ตามแนวพระราชดำริ มี 3 รูปแบบ คือ
1. Check Dam แบบท้องถิ่นเบื้องต้น
เป็นการก่อสร้างด้วยวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ เช่น
กิ่งไม้และท่อนไม้ล้มขอนนอนไพร ขนาบด้วยก้อนหินขนาดต่างๆ
ในลำห้วย ซึ่งเป็นการก่อสร้างแบบง่ายๆ
ก่อสร้างในบริเวณตอนบนของลำห้วยร่องน้ำ
ซึ่งจะสามารถดักตะกอนชะลอการไหลของน้ำ และ เพิ่มความชุ่มชี้นบริเวณรอบฝายได้เป็นอย่างดี
วิธีการนี้สิ้นเปลือง ค่าใช้จ่ายน้อยมาก
หรืออาจไม่มีค่าใช้จ่ายเลยนอกจากใช้แรงงานเท่านั้น
การก่อสร้าง Check Dam
แบบท้องถิ่นเบื้องต้นสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
2. Check Dam แบบเรียงด้วยหินค่อนข้างถาวร
ก่อสร้างด้วยการเรียงหินเป็นผนังกั้นน้ำ
ก่อสร้างบริเวณตอนกลางและตอนล่างของลำห้วยหรือร่องน้ำ
จะสามารถดักตะกอน และเก็บกักน้ำในช่วงฤดูแล้งได้เป็นบางส่วน
3. Check Dam แบบคอนกรีตเสริมเหล็ก
เป็นการก่อสร้างแบบถาวร
ส่วนมากจะดำเนินการในบริเวณตอนปลายของลำห้วยหรือร่องน้ำ
จะสามารถดักตะกอนและเก็บกักน้ำในฤดูแล้งได้ดี
นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชดำรัส
ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับฝายต้นน้ำ (Check Dam )
ในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้
พระราชดำรัสเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2521 ณ อำเภอแม่ลาน้อย
จังหวัดแม่ฮ่องสอน "...สำหรับต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ในบริเวณสองข้างลำห้วย
จำเป็นต้องรักษาไว้ให้ดี
เพราะจะช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นไว้
ส่วนตามร่องน้ำและบริเวณที่น้ำซับก็ควรสร้างฝายขนาดเล็กกั้นน้ำไว้
ในลักษณะฝายชุ่มชื้น แม้จะมีจำนวนน้อย ก็ตาม
สำหรับแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำมาก
จึงสร้างฝายเพื่อผันน้ำลงมาใช้ในพื้นที่เพาะปลูก
"
พระราชดำรัส เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2527 ณ
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ตามพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด
จังหวัดเชียงใหม่ "...เป้าหมายหลักของโครงการฯ แห่งนี้คือ
การฟื้นฟูและอนุรักษ์บริเวณต้นน้ำห้วยฮ่องไคร้
ซึ่งมีสภาพแห้งแล้งโดยเร่งด่วน โดยทดลองใช้วิธีการใหม่ เช่น
วิธีการผันน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ ในระดับบนลงไปตามแนวร่องน้ำต่าง
ๆ เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นค่อย ๆ แผ่ขยายตัวออกไป
สำหรับน้ำส่วนที่เหลือก็จะไหลลงอ่างเก็บน้ำในระดับต่ำลงไป
เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านการเกษตรกรรมต่อไป
ในการนี้ควรเริ่มปลูกป่าทดแทนตามแนวร่องน้ำ
ซึ่งมีความชุ่มชื้นมากกว่าบริเวณสันเขา ซึ่งจะทำให้เห็นผลโดยเร็ว
นอกจากนี้ยังเป็นการประหยัดกล้าไม้ และปลอดภัยจากไฟป่าด้วย
เมื่อร่องน้ำดังกล่าวมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น
ลำดับต่อไปก็ควรสร้างฝายต้นน้ำเป็นระยะ ๆ เพื่อค่อย ๆ
เก็บกักน้ำไว้แล้วส่งต่อท่อไม้ไผ่ส่งน้ำออกทั้งสองฝั่งร่องน้ำ
อันเป็นการช่วยแผ่ขยายแนวความชุ่มชื้อออกไปตลอดแนวร่องน้ำ
"
พระราชดำรัสเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2532 ณ ดอยอ่างขาง
อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ "...ควรสร้างฝายลำธารตามร่องน้ำเพื่อช่วยชะลอกระแสน้ำและเก็บกักน้ำ
สำหรับสร้างความชุ่มชื้นให้กับบริเวณต้นน้ำ
"
ฉะนั้นจะเห็นว่าการก่อสร้างฝายหรือ Check Dam
จึงเป็นแนวทางหรือวิธีการหนึ่ง
ในการฟื้นฟูสภาพป่าไม้บริเวณต้นน้ำลำธาร
เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์และทำให้เกิดความหลากหลายด้านชีวภาพ (Bio
diversity) แก่สังคมของพืชและสัตว์
ตลอดจนนำความชุ่มชื้นมาสู่แผ่นดิน ซึ่งกรมป่าไม้
โดยส่วนอนุรักษ์ต้นน้ำ สำนักอนุรัาษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ได้นำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับฝายต้นน้ำ
(Check Dam)
เข้ามาบรรจุเป็นกิจกรรมหนึ่งในการฟื้นฟูระบบนิเวศน์ของป่าไม้บริเวณพื้นที่ต้นน้ำลำธาร
ให้ฟื้นคืนสภาพทางนิเวศน์ที่เหมาะสม ต่อการเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ในงานการจัดการลุ่มน้ำ
แผนงานอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ งานอนุรักษ์ป่าไม้
ซึ่งหน่วยจัดการต้นน้ำต่าง ๆ
ก็ได้ดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดทำฝายต้นน้ำลำธารประเภทต่าง ๆ
เป็นจำนวนมากจนถึงปัจจุบัน และเมื่อ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2544
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินทรงประทับแรม ณ พื้นที่ป่าต้นน้ำห้วยน้ำงุม
หน่วยจัดการต้นน้ำดอยสามหมื่น อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ได้ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของฝายต้นน้ำลำธารได้ทรงพระราชทานฝายต้นน้ำลำธารแก่กรมป่าไม้
เพื่อเป็นแบบอย่างในการดำเนินงานเกี่ยวกับฝายต้นน้ำลำธารในพื้นที่ป่าไม้บริเวณต้นน้ำลำธารต่อไป
Back to top
|