| | Osbeckia stellata Buch.-Ham. ex Ker Gawl. |
|
ไม้พุ่ม สูง 1–3 ม. ใบรูปรี รูปไข่ หรือแกมรูปใบหอก ยาว 9–11 ซม. ปลายแหลม โคนกลม เส้นโคนใบข้างละ 2–3 เส้น แผ่นใบมีขนแข็งทั้งสองด้าน ก้านใบยาว 3–5 มม. ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนง กลีบดอกและกลีบเลี้ยงจำนวนอย่างละ 4 กลีบ ฐานดอกยาว 1.4–1.8 ซม. มีติ่งขนหนาแน่นหรือประปราย ยาว 2–4 มม. กลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยม ยาว 3–5 มม. กลีบดอกยาว 1.6–2.8 ซม. เกสรเพศผู้ 8 อัน อับเรณูยาว 1–1.5 ซม. ปลายเป็นจะงอยรูปตัวเอส รังไข่สั้นกว่าฐานดอก ผลรูปคนโท ยาว 1.4–2 ซม.
พบที่อินเดีย เนปาล ภูฏาน จีนตอนใต้ ไต้หวัน และภูมิภาคอินโดจีน ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามที่โล่ง ทุ่งหญ้า หรือสันเขา ที่ค่อนข้างชื้นแฉะ ความสูงถึงประมาณ 2000 เมตร ใบใช้พอกแก้พิษงู
| | | | ชื่ออื่น โคลงเคลงหิน, เอ็นอ้าขน (เลย); เฒ่านั่งฮุ่ง (เชียงใหม่)
| | เอนอ้าขน: ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนง กลีบดอก 4 กลีบ ฐานดอกมีติ่งขนหนาแน่นหรือประปราย เกสรเพศผู้ 8 อัน ปลายอับเรณูเป็นจะงอยรูปตัวเอส ผลรูปคนโท (ภาพ: ราชันย์ ภู่มา, ปรีชา การะเกตุ)
|
|
|
เอกสารอ้างอิง | Chen, J. and S.S. Renner. (2007). Melastomataceae. In Flora of China Vol. 13: 361–363. |
| Hansen, C. (1977). Contributions to the flora of Asia and the Pacific region: the Asiatic species of Osbeckia (Melastomataceae). Ginkgoana 4: 1–150. |
| Renner, S.S., G. Clausing, N. Cellinese and K. Meyer. (2001). Melastomataceae. In Flora of Thailand Vol. 7(3): 450–455. |