สารานุกรมพืชในประเทศไทย (ฉบับย่อ)
(Concise Encyclopedia of Plants in Thailand)


หมวดตัวอักษร 


Index to botanical names


ค้นหาคำศัพท์
ค้นหาคำศัพท์   



เทียนใต้
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2559

Impatiens platypetala Lindl.

Balsaminaceae

ไม้ล้มลุก สูง 30–50 ซม. มีเหง้า ลำต้นเกลี้ยง หูใบเป็นต่อม ใบเรียงตรงข้ามหรือเรียงรอบข้อ รูปขอบขนานถึงรูปใบหอก ยาวได้ถึง 12 ซม. ขอบจักตื้นห่าง ๆ แผ่นใบมีขนยาวประปรายด้านล่าง มีนวล ก้านใบยาว 0.5–4 ซม. ดอกออกเดี่ยว ๆ สีม่วง ก้านดอกยาว 3–7 ซม. กลีบเลี้ยง 2 กลีบ เป็นติ่งแหลม ยาว 8–9 มม. กลีบปากรูปเรือ เดือยยาว 2–4 ซม. กลีบดอกกลีบกลางรูปไข่กลับกว้าง ยาวประมาณ 1.5 ซม. ปลายเว้าตื้น เส้นกลางกลีบเป็นสันปีก มีขน กลีบปีกแยกกัน ยาว 2–2.5 ซม. คู่นอกมักยาวกว่าคู่ในเล็กน้อย ปลายกลีบจัก 2 พู โคนกลีบสีเข้ม ผลเต่งกลาง ยาว 1.5–2 ซม. เมล็ดมีขนยาว

พบที่คาบสมุทรมลายู บอร์เนียว สุมาตรา และชวา ในไทยพบทางภาคใต้ที่ระนอง สุราษฎร์ธานี ยะลา ปัตตานี ขึ้นตามริมลำธารในป่าดิบชื้น และบนเขาหินปูน ความสูง 200–500 เมตร คล้ายเทียนป่า I. griffithii Hook.f. & Thomson var. sarcantha (Hook.f. ex Ridl.) T. Shimizu แต่เทียนป่าช่วงโคนลำต้นทอดเลื้อย ลำต้นและใบมีขนยาว ก้านใบเกือบไร้ก้านหรือมีก้านสั้น ๆ

ชื่อพ้อง  Impatiens betongensis Craib

เทียนใต้: ลำต้นเกลี้ยง ใบเรียงเวียนรอบข้อ 3–5 ใบ รูปใบหอก ขอบจักตื้น ห่าง ๆ ก้านดอกยาว ดอกออกเดี่ยว ๆ กลีบปีกแยกกัน ผลเต่งกลาง (ภาพ: มานพ ผู้พัฒน์)

เอกสารอ้างอิง

Chen, Y., S. Akiyama and T. Shimizu. (2007). Balsaminaceae. In Flora of China Vol. 12: 63, 69, 76, 92.

Ruchisansakun, S., P. Triboun and T. Jenjitikul. (2014). A new species of Impatiens (Balsaminaceae) from southwestern Thailand. Phytotaxa 174(4): 237–241.

Shimizu, T. (2000). New species of Thai Impatiens (Balsaminaceae) 2. Bulletin of the National Science Museum. Tokyo, Series B (Botany) 29: 39.

Shimizu, T. (1991). New species of the Thai Impateins (1). Journal of Japanese Botany 66(3): 166–171.

Shimizu, T. (1970). Contribution to the Flora of Southeast Asia. II. Impatiens of Thailand and Malaya. Southeast Asian Studies 8: 187–217.

Suksathan, P. and P. Triboun. (2009). Ten new species of Impatiens (Balsaminaceae) from Thailand. Gardens’ Bulletin Singapore 61(1): 159–184.