สารานุกรมพืชในประเทศไทย (ฉบับย่อ)
(Concise Encyclopedia of Plants in Thailand)


หมวดตัวอักษร 


Index to botanical names


ค้นหาคำศัพท์
ค้นหาคำศัพท์   

ก้ามกุ้ง

ก้ามกุ้ง
วันที่ 28 เมษายน 2560

Morinda pandurifolia Kuntze

Rubiaceae

ดูที่ ยอน้ำ

ก้ามกุ้ง
วันที่ 13 กันยายน 2559

Albizia saman (Jacq.) Merr.

Fabaceae

ดูที่ จามจุรี

ก้ามกุ้ง  สกุล
วันที่ 30 พฤษภาคม 2559

Phyllagathis Blume

Melastomataceae

ไม้ล้มลุก ใบเรียงตรงข้าม มักมีขนาดไม่เท่ากัน บางครั้งลดรูปมีใบเดียว ช่อดอกแบบช่อวงแถวคู่หรือช่อซี่ร่ม ฐานดอกรูปถ้วยมักเป็นเหลี่ยม กลีบเลี้ยงและกลีบดอกจำนวนอย่างละ 4 กลีบ พบน้อยที่มี 5 กลีบ กลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ส่วนมากติดทน เกสรเพศผู้มี 4 หรือ 8 อัน พบน้อยที่มี 10 อัน ยาวเท่า ๆ กัน อับเรณูมีรูเปิดด้านบน มีเดือยสั้นเป็นรยางค์ รังไข่ใต้วงกลีบ มี 4 หรือ 5 ช่อง พลาเซนตารอบแกนร่วม ผลแบบผลแห้งแตก เมล็ดจำนวนมาก มีต่อม

สกุล Phyllagathis มีประมาณ 57 ชนิด พบที่จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย ในไทยมี 5 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “phyllon” ใบ และ “agathis” ก้อนเส้นด้าย อาจหมายถึงใบออกเป็นกระจุกจากโคนลำต้นใต้ดิน


ก้ามกุ้งขน
วันที่ 30 พฤษภาคม 2559

Phyllagathis hispida King

Melastomataceae

ไม้ล้มลุก ลำต้นสั้น มีขนสากหรือเกลี้ยง ใบรูปไข่ ยาว 10–25 ซม. โคนรูปหัวใจ ขอบจักซี่ฟันตื้น ๆ เส้นโคนใบ 6–10 เส้น เส้นแขนงใบย่อยแบบขั้นบันได ก้านใบยาวได้ถึง 10 ซม. ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม มีขนสากหรือเกลี้ยง ก้านช่อยาว 4–10 ซม. ฐานดอกยาวประมาณ 1 ซม. กลีบเลี้ยงร่วงเร็ว ดอกสีชมพูอมม่วงหรือสีขาว กลีบรูปไข่ ยาวประมาณ 1.3 ซม. เกสรเพศผู้ 8 อัน อันสั้น 4 อัน ติดบนกลีบเลี้ยง ยาวประมาณ 5 มม. อันยาว 4 อัน ติดบนกลีบดอก ยาวประมาณ 1.2 ซม. รวมเดือย มีเกล็ด 4 อันรอบโคนก้านเกสรเพศเมีย รังไข่มี 4 ช่อง ผลรูปรียาวประมาณ 6 มม. เมล็ดยาวประมาณ 1 มม.

พบที่คาบสมุทรมลายู และภาคใต้ตอนล่างของไทยที่ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ขึ้นตามป่าดิบชื้นหรือริมลำธาร ความสูงถึงประมาณ 1300 เมตร

ก้ามกุ้งขน: ลำต้นสั้น โคนใบรูปหัวใจ ก้านใบและช่อดอกมีขนสากหรือเกลี้ยง ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม เกสรเพศผู้ 8 อัน อันยาว 4 อัน อันสั้น 4 อัน (ภาพ: ราชันย์ ภู่มา)

ก้ามกุ้งภูวัว
วันที่ 30 พฤษภาคม 2559

Phyllagathis nanakorniana Wangwasit, Norsaengsri & Cellin.

Melastomataceae

ไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีใบเดียว รูปหัวใจ กว้าง 3.5–15 ซม. ยาว 2.7–12.5 ซม. ขอบมีติ่งแหลมตามปลายเส้นแขนงใบ แผ่นใบด้านล่างมักมีสีน้ำตาลแดง เส้นโคนใบข้างละ 3–5 เส้น ก้านใบยาวได้ถึง 6.5 ซม. ช่อดอกออกจากเหง้า มี 1–3 ช่อ บางครั้งแยกแขนง ก้านช่อยาว 6–17 ซม. ใบประดับย่อย 2 ใบ รูปแถบขนาดเล็ก ฐานดอกรูปถ้วยยาวประมาณ 3 มม. ก้านดอกยาว 0.4–1 ซม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกจำนวนอย่างละ 4–5 กลีบ ดอกสีชมพู กลีบรูปไข่ ยาว 5–6 มม. เกสรเพศผู้ 8–10 อัน เป็นหมัน 4–5 อัน ผลรูประฆังเป็นเหลี่ยม กว้าง 2.5–3 มม. สูงประมาณ 2 มม.

พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่ภูวัว จังหวัดบึงกาฬ ขึ้นตามหน้าผาหินทรายในป่าดิบแล้ง ความสูง 200–350 เมตร คำระบุชนิดตั้งตามชื่อดร.วีระชัย ณ นคร อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์

ก้ามกุ้งภูวัว: ไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีใบเดียว ช่อดอกแบบวงแถวคู่ กลีบดอกมี 4 หรือ 5 กลีบ ผลรูประฆังเป็นเหลี่ยม (ภาพ: ปรีชา การะเกตุ)

ก้ามกุ้งหัว
วันที่ 30 พฤษภาคม 2559

Phyllagathis tuberosa (C.Hansen) Cellin. & S.S.Renner

Melastomataceae

ไม้ล้มลุกไม่มีลำต้น มีเหง้า มีขนยาวห่าง ๆ ตามแผ่นใบ ก้านใบ ก้านช่อดอก และฐานดอก มี 1–3 ใบ รูปไข่ ยาว 2–5 ซม. โคนตัด เว้าตื้น หรือแหลม ขอบเรียบมีขนครุย เส้นโคนใบข้างละ 2 เส้น เส้นแขนงใบย่อยไม่ชัดเจน ก้านใบยาว 1–3 ซม. ช่อดอกออกจากเหง้า ก้านช่อยาว 2–7 ซม. มี 3–7 ดอก ใบประดับ 2 ใบ รูปแถบขนาดเล็ก ฐานดอกรูปถ้วย ยาว 1–2 มม. ก้านดอกยาวประมาณ 4 มม. ดอกสีชมพู กลีบรูปไข่ ยาวประมาณ 3.5 มม. เกสรเพศผู้ 4 อัน ยาวเท่า ๆ กัน ผลรูประฆัง ยาวประมาณ 1.5 มม.

พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ภูเมี่ยง จังหวัดเพชรบูรณ์ และภาคตะวันออกที่โขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ขึ้นบนก้อนหินหรือดินทราย ในป่าเต็งรังหรือป่าดิบแล้ง ความสูง 300–700 เมตร

ชื่อพ้อง  Tylanthera tuberosa C.Hansen

ก้ามกุ้งหัว: ไม้ล้มลุกไม่มีลำต้น มีใบเดียว ช่อดอกยาว ช่อดอกแบบวงแถวคู่ เกสรเพศผู้ 4 อัน ผลรูประฆัง (ภาพ: ปรีชา การะเกตุ)



เอกสารอ้างอิง

Chen, J. and S.S. Renner. (2007). Melastomataceae. In Flora of China Vol. 13: 377.

Renner, S.S., G. Clausing, N. Cellinese and K. Meyer. (2001). Melastomataceae. In Flora of Thailand Vol. 7(3): 468–475.

Wangwasit, K., N. Cellinese and M. Norsaengsri. (2010). Phyllagathis nanakorniana (Melastomataceae), a new species from Thailand. Blumea 55(3): 246–248.