สารานุกรมพืชในประเทศไทย (ฉบับย่อ)
(Concise Encyclopedia of Plants in Thailand)


หมวดตัวอักษร 


Index to botanical names


ค้นหาคำศัพท์
ค้นหาคำศัพท์   

กระเบา

กระเบา  สกุล
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus Gaertn.

Achariaceae

ไม้ต้น ส่วนมากแยกเพศต่างต้น หูใบร่วงเร็ว ใบเรียงเวียน ปลายก้านใบหนา ช่อดอกแบบช่อกระจุกสั้น ๆ หรือลดรูปเป็นกระจุกตามซอกใบ ใบประดับขนาดเล็กหรือไม่มี กลีบเลี้ยงส่วนมากมี 4 กลีบ เรียงซ้อนเหลื่อม ไม่ติดทน กลีบดอก 4–15 กลีบ แยกกัน เชื่อมติดกันที่โคนหรือเป็นหลอด โคนด้านล่างกลีบมีเกล็ด เกสรเพศผู้มี 5 อัน หรือจำนวนมาก แยกกัน เป็นหมันในดอกเพศเมีย รังไข่มีช่องเดียว พลาเซนตาเรียง 3–6 แถว ออวุลจำนวนมาก ก้านเกสรเพศเมีย 3–6 อัน ยอดเกสรแบน ผลสดเปลือกแข็ง บางครั้งผนังชั้นนอกเป็นเส้นใย ชั้นกลางแข็ง ชั้นในนุ่ม เมล็ดรูปไข่แกมสามเหลี่ยม

สกุล Hydnocarpus เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Flacourtiaceae มีประมาณ 40 ชนิด พบเฉพาะในเอเชียเขตร้อน ในไทยมี 7 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “hydno” หัว และ “karpos” ผล ตามลักษณะของผลที่ดูคล้ายเป็นหัวขนาดใหญ่


กระเบา
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus castaneus Hook.f. & Thomson

Achariaceae

ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. แยกเพศร่วมต้น มีขนรูปดาวสั้น ๆ ประปรายตามกิ่ง แผ่นใบด้านล่าง ช่อดอก ก้านดอก และกลีบเลี้ยง ใบรูปขอบขนาน รูปใบหอก หรือแกมรูปไข่ ยาว 10–30 ซม. ปลายแหลมยาว ขอบเรียบ ก้านใบยาวได้ถึง 2 ซม. ก้านดอกยาวได้ถึง 6 ซม. กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยาวประมาณ 8 มม. ดอกสีครีม กลีบรูปรี ยาวได้ถึง 1.4 ซม. เกล็ดที่โคนเรียวแคบ ขอบมีขนครุย เกสรเพศผู้ 5 อัน ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 4 มม. เกลี้ยง อับเรณูยาวประมาณ 3 มม. เป็นหมันในดอกเพศเมีย รังไข่มีขนหนาแน่น เป็นหมันในดอกเพศผู้ ออวุลมีขนยาว ผลรูปกลม เส้นผ่านศูนย์กลางยาวได้ถึง 12 ซม. มีขนสั้นนุ่มสีน้ำตาลหนาแน่น ผนังผลชั้นกลางหนาประมาณ 1 ซม. เมล็ดยาวประมาณ 2 ซม. มีขนยาว

พบที่พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู บอร์เนียว และสุมาตรา ในไทยพบกระจายทุกภาค ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา และป่าดิบชื้น ความสูงถึงประมาณ 1600 เมตร สารสกัดจากเมล็ดใช้ทาแก้โรคผิวหนังหลายชนิดรวมทั้งโรคเรื้อน

ชื่อพ้อง  Hydnocarpus anthelminthicus Pierre ex Laness.

ชื่อสามัญ   Chaulmoogra

ชื่ออื่น   กระเบา (ทั่วไป); กระเบาค่าง (ยะลา); กระเบาแดง (ตรัง); กระเบาตึก (เขมร-ภาคตะวันออก); กระเบาน้ำ, กระเบาเบ้าแข็ง, กระเบาใหญ่, กาหลง (ภาคกลาง); ตัวโฮ่งจี๊ (จีน); เบา (สุราฎร์ธานี); เบาดง (สตูล); มันหมู (ตรัง); หัวค่าง (ภาคใต้)

กระเบา: ใบเรียงเวียน โคนเบี้ยว ขอบเรียบ กลีบดอกสีครีม รูปรี เกสรเพศผู้ 5 อัน ผลรูปกลม มีขนสั้นนุ่มสีน้ำตาลหนาแน่น (ภาพ: Simon Gardner, อรุณ สินบำรุง)

กระเบาเบ้าแข็ง
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus castaneus Hook.f. & Thomson

Achariaceae

ดูที่ กระเบา

กระเบาแดง
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus castaneus Hook.f. & Thomson

Achariaceae

ดูที่ กระเบา

กระเบาใหญ่
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus castaneus Hook.f. & Thomson

Achariaceae

ดูที่ กระเบา

กระเบากลัก
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus ilicifolius King

Achariaceae

ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. แยกเพศต่างต้น ใบรูปไข่ รูปไข่กลับ หรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 9–22 ซม. ปลายแหลมหรือแหลมยาว ขอบเรียบหรือจักซี่ฟันห่าง ๆ ก้านใบยาวได้ถึง 1.5 ซม. ช่อดอกมีขนสีน้ำตาลแดงหนาแน่น ก้านดอกยาวได้ถึง 2 ซม. กลีบเลี้ยงรูปรีกว้าง ยาวประมาณ 9 มม. ด้านนอกมีขนสั้นนุ่ม ดอกสีเขียวอ่อน กลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาวได้ถึง 8 มม. ด้านนอกมีขนประปราย เกล็ดที่โคนเชื่อมติดกัน เกสรเพศผู้ยื่นพ้นปากหลอดกลีบดอกเล็กน้อย ก้านชูอับเรณูมีขน รังไข่มีขนหนาแน่น ไม่มีรังไข่ที่เป็นหมันในดอกเพศผู้ ผลรูปกลม เส้นผ่านศูนย์กลางยาวได้ถึง 8 ซม. มีขนสั้นนุ่มสีดำหนาแน่น ผนังผลชั้นกลางหนาประมาณ 3 มม. เมล็ดยาวประมาณ 2.5 ซม.

พบที่ภูมิภาคอินโดจีน และคาบสมุทรมลายู ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้นที่เป็นหินปูน ความสูงถึงประมาณ 800 เมตร

ชื่ออื่น   กระเบากลัก (สระบุรี); กระเบาซาวา (เขมร-กาญจนบุรี); กระเบาพนม (เขมร-สุรินทร์); กระเบาลิง (ทั่วไป); กระเบาหิน (อุดรธานี); กระเบียน (จันทบุรี); กระเรียน (ชลบุรี); ขี้มอด (จันทบุรี); คมขวาน (ประจวบคีรีขันธ์); จ้าเมี่ยง (สระบุรี, แพร่); ดูกช้าง (กระบี่); บักกราย, พะโลลูตุ้ม (มาเลย์-ปัตตานี); หัวค่าง (ภาคใต้)

กระเบากลัก: ขอบใบจักซี่ฟันห่าง ๆ เกสรเพศผู้จำนวนมาก ผลรูปกลม มีขนสั้นนุ่มสีดำหนาแน่น (ภาพ: Bob Harwood, ราชันย์ ภู่มา)

กระเบาค่าง
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus castaneus Hook.f. & Thomson

Achariaceae

ดูที่ กระเบา

กระเบาซาวา
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus ilicifolius King

Achariaceae

ดูที่ กระเบากลัก

กระเบาตึก
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus castaneus Hook.f. & Thomson

Achariaceae

ดูที่ กระเบา

กระเบาน้ำ
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus castaneus Hook.f. & Thomson

Achariaceae

ดูที่ กระเบา

กระเบาพนม
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus ilicifolius King

Achariaceae

ดูที่ กระเบากลัก

กระเบาลิง
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus ilicifolius King

Achariaceae

ดูที่ กระเบากลัก

กระเบาหิน
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Hydnocarpus ilicifolius King

Achariaceae

ดูที่ กระเบากลัก



เอกสารอ้างอิง

Harwood, B. and B. Webber. (2015). Achariaceae. In Flora of Thailand Vol. 13(1): 2–12.