อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
มีเนื้อที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม
อำเภอศรีเมืองใหม่
และอำเภอโพธิ์ไทร
จังหวัดอุบลราชธานี
ประกอบด้วย
สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์
สัตว์ป่านานาชนิด
มีจุดเด่นที่สวยงามตามธรรมชาติมากมาย เช่น ผาชัน
น้ำตกสร้อยสวรรค์ เสาเฉลียง
ถ้ำปาฏิหารย์ ภูนาทาม
เป็นต้น
อีกทั้งยังได้มีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณ
สมัยก่อนประวัติศาสตร์
อายุราว 3,000-4,000 ปี ที่บริเวณผาขาม
ผาแต้ม ผาเจ็ก ผาเมย
และถือได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติ
แห่งแรกในประเทศไทยที่มีแม่น้ำโขง
ซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดน ระหว่างประเทศไทย
และประเทศลาวเป็นแนวเขตอุทยานแห่งชาติที่ยาวที่สุด
ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ป่าเขา
ทางฝั่งประเทศลาวได้เป็นอย่างดี
ประวัติความเป็นมา
ในอดีต
ชาวบ้านท้องถิ่นที่ทำกินในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ป่าภูผา
น้อยคนนักที่จะเดินทางเข้าไปในป่าดังกล่าว
เนื่องจากมีความเชื่อว่า
ผาแต้มเป็นเขตต้องห้าม
ภูผาเหล่านี้มีความศักดิ์สิทธิ์นักเป็นภูผาแห่งความตาย
ใครล่วงล้ำเข้าไปมักมีอันเป็นไป
อาจเจ็บไข้หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
พื้นที่ป่าภูผาบริเวณผาแต้มได้ถูกเปิดเผยจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
เมื่อคณะอาจารย์และนักศึกษาจากภาควิชามนุษยวิทยา
มหาวิทยาลัยศิลปากรได้มาทำการสำรวจและค้นพบภาพเขียนสีโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ผาแต้ม
ท้องที่บ้านกุ่ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม
จังหวัดอุบลราชธานี
ประกอบกับสภาพป่าในบริเวณใกล้เคียงยังอุดมสมบูรณ์
จึงได้ทำหนังสือบันทึกจากภาควิชาฯ
ลงวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2524 เสนอต่อ
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้
ขอให้จัดตั้งป่าภูผาในบริเวณผาแต้มเป็นอุทยานแห่งชาติ
ซึ่งกองอุทยานแห่งชาติได้ให้
นายเสงี่ยม จันทร์แจ่ม
นักวิชาการป่าไม้ 4
ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดงหินกอง
(ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ)
ไปทำการสำรวจหา

ข้อมูลเพิ่มเติม ปรากฏว่า
พื้นที่บริเวณที่ขอให้จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
อยู่ในบริเวณพื้นที่ป่าภูผา
ปรากฏภาพเขียนสีโบราณซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ผาแต้ม
สภาพป่าบริเวณใกล้เคียงยังไม่ถูกทำลาย
และมีจุดเด่นตามธรรมชาติที่สวยงามการคมนาคมสะดวก
เหมาะที่จะตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเห็นสมควรผนวก
บริเวณดังกล่าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดงหินกอง
กรมป่าไม้ จึงมีคำสั่งกรมป่าไม้ ที่ 1162/2524
ลงวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2524
ให้นายเสงี่ยม จันทร์แจ่ม นักวิชาการป่าไม้ 4
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
(ดงหินกอง)ไปดำเนินการควบคุมดูแลรักษาป่าภูผา
โดยให้พิจารณาผนวกเข้ากับอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
โดยได้ประกาศรวมกับบริเวณป่าใกล้เคียงให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูโหล่น
และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
เล่ม 90 ตอนที่ 153 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2526 ต่อมา
กรมป่าไม้ได้พิจารณาเห็นว่า
พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่คนละส่วนและอยู่ห่างไกลกับอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
ตลอดจนมีอาณาเขตกว้างขวางเกรงว่า
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
จะดูแลไม่ทั่วถึง และเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลตามโครงการอีสานเขียว
และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้
เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและการศึกษาหาความรู้ทางวิชาการ
จึงมีคำสั่งกรมป่าไม้ ที่ 991/2532 ลงวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2532
ให้นายวรพล รันตสุวรรณ
นักวิชาการป่าไม้ 5 กองอุทยานแห่งชาติ
ไปดำเนินการสำรวจเพื่อจัดตั้งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดง
ภูโหล่น ท้องที่อำเภอโขงเจียม
อำเภอศรีเมืองใหม่
และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี
ให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ฉบับพิเศษหน้า 90-92 เล่ม 108 ตอนที่ 245
ลงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2534
มีเนื้อที่ประมาณ 340 ตารางกิโลเมตร หรือ 212,500 ไร่
นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 74
ของประเทศไทย |