อุทยานแห่งชาติภูพาน

 
        
 
 

          อุทยานแห่งชาติภูพาน   มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่กิ่งอำเภอพรรณานิคม อำเภอเมือง อำเภอกุตบาก จังหวัดสกลนคร อำเภอสมเด็จ กิ่งอำเภอห้วยผึ้ง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์   ประกอบด้วยป่าที่อุดมสมบูรณ์และมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตก ถ้ำ   หน้าผาทิวทัศน์ตามธรรมชาติ    ตลอดจนพื้นป่าแห่งนี้ในอดีตได้ชื่อว่า    เป็นปัญหาในด้านทางการเมือง   และในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2   ก็ยังเป็นแหล่งสะสมอาวุธยุทธภัณฑ์ที่ใช้สำหรับต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นประวัติ-ศาสตร์ ของอุทยานแห่งชาติภูพาน ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 655.34 ตารางกิโลเมตร หรือ 415,439ไร่

ประวัติความเป็นมา

                

        ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่   7   ตุลาคม  พ.ศ.2502       ให้กำหนดป่าเขาภูพาน หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “ป่าเขาชมภูพาน” จังหวัดสกลนคร และจังหวัดกาฬสินธุ์ และป่าอื่น ๆ ในท้องที่จังหวัด่างๆ รวม 14 ป่า เป็นอุทยานแห่งชาติ   เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้เป็นการถาวรเพื่อประโยชน์ส่วนรวม กรมป่าไม้ได้เสนอจัดตั้งป่าภูพานเป็นอุทยานแห่งชาติ   โดยได้มีประกาศคณะปฏิวัติ   ฉบับที่  244  ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2515 กำหนดบริเวณที่ดินป่าภูพานในท้องที่ตำบลนาใน ตำบลไร่ ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอพรรณานิคม ตำบลโคกภู ตำบลนาม่อง อำเภอกุดบาก    และตำบลห้วยยาง ตำบลผังกว้าง  อำเภอเมือง   จังหวัดสกลนคร    และตำบลแซงบาดาล   อำเภอสมเด็จ  จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นอุทยานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2515 ซึ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 89 ตอนที่ 170 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2515 นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 7 ของประเทศ รวมเนื้อที่ประมาณ 418,125 ไร่
           ต่อมาจังหวัดกาฬสินธุ์ได้มีหนังสือที่ กส 09/598 ลงวันที่ 12   มกราคม  พ.ศ.2516 รายงานว่า ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 244 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2515   กำหนดให้ที่ดินป่าภูพานเป็นอุทยานแห่งชาตินั้น ปรากฏว่ามีพื้นที่บางส่วนในบางตำบลของจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเขตอุทยานแห่งชาติแต่ไม่ได้ระบุชื่อตำบลลงไว้      กรมป่าไม้จึงได้ดำเนินการตรวจสอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติใหม่      โดยได้มีพระราชกฤษฎีกายกเลิกประกาศคณะปฏิวัติ และกำหนดบริเวณที่ดินป่าภูพานในท้องที่ตำบลนาใน ตำบลไร่  ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอพรรณานิคม ตำบลพังขวาง ตำบลห้วยยาง อำเภอเมือง ตำบลนาม่อง ตำบลโคกภู อำเภอกุดบาก จังหวัดสกนคร และตำบลแซงบาดาล อำเภอสมเด็จ ตำบลคำบง  อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์   ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ  พ.ศ. 2518   ซึ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 ตอนที่ 106 ลงวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2518
         ซึ่งต่อมา กรมป่าไม้ดำเนินการรังวัดหมายแนวเขตของพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูพาน เพื่อทำการขอเพิกพอนแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี    เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2520   ซึ่งอนุมัติในหลักการให้เพิกถอนพื้นที่บริเวณบ่อหิน     เนื้อที่ไม่เกิน 5 ไร่ คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในคราวประชุม    ครั้งที่ 2/2521  เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2521 ให้กรมป่าไม้ดำเนินการเพิกถอนพื้นที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ สำนักสงฆ์ถ้ำขาม (หลวงปู่ฝั้น) และอ่างเก็บน้ำห้วยแข้ ออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูพาน   แต่เนื่องจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูพาน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติในปี    พ.ศ. 2518    ไม่ได้ระบุชื่อตำบลบางตำบลไว้     จึงไม่สามารถดำเนินการเพิกถอนได้ กรมป่าไม้จึงเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 3/2523 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2523   ดำเนินการตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาให้แนวทางปฏิบัติ    โดยให้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นไปใหม่และกันพื้นที่ดังกล่าวออกเสีย    และเพิ่มตำบลที่ตกหล่นให้สมบูรณ์      เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวเขตอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอุทยานแห่งชาติป่าภูพาน ในท้องที่ตำบลนาใน ตำบลไร่ ตำบลห้วยบ่อ อำเภอพรรณานิคม ตำบลพังขว้าง ตำบลห้วยยางอำเภอเมือง ตำบลนาม่อง ตำบลโคกภู ตำบลสร้างค้อ อำเภอกุตบาก จังหวัดสกลนคร   และตำบลแซงบาดาล ตำบลมหาไชย ตำบลผาเสวย อำเภอสมเด็จ ตำบลคำบง กิ่งอำเภอห้วยผึ้งอำเภอกุ-ฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2525  ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา  เล่ม 99 ตอนที่ 161 ลงวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2525 รวมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 415,439 ไร่   (คือระบุตำบลเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงแนวเขตตำบล และเพิกถอนสำนักสงฆ์ถ้ำขาม บ่อหิน พระตำหนักภูพาน อ่างเก็บน้ำห้วยแข้ ออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ)

 
     

Back / ับ

                           จุดเด่นที่น่าสนใจ                          ลักษณะโดยทั่วไป                       การเดินทางและบริการ