|
5 - 12 มีนาคม 2555
1. สภาพอากาศ
1.1 อุณหภูมิ
ภาคเหนือ
อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศา สูงสุด
33-37 องศา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุณหภูมิต่ำสุด
21-24 องศา สูงสุด 35-37
องศา
ภาคกลาง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
สูงสุด 36-38 องศา
ภาคตะวันออก อุณหภูมิต่ำสุด
24-26 องศา
สูงสุด 32-37 องศา
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก อุณหภูมิต่ำสุด
23-25 องศา สูงสุด
31-33
องศา
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา สูงสุด
31-33
องศา
|
ภาค |
ความชื้นสัมพัทธ์ (%) |
|
ภาคเหนือ |
55-65 |
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
55-65 |
|
ภาคกลาง |
60-70 |
|
ภาคตะวันออก |
70-80 |
|
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก |
70-80 |
|
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก |
70-80 |
ในช่วงวันที่
5-7 มี.ค.
หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน
ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก
ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางแห่ง
สำหรับบริเวณภาคเหนือตอนบบน
มีลมตะวันตกพัดปกคลุมทำให้มีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้าในระยะนี้
ในช่วงวันที่ 8-11 มี.ค.
บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น
โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
และลูกเห็บตกในบางพื้นที่
เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปะทะกับอากาศร้อนที่ปกคลุมบริเวณประเทศไทย
โดยพายุฤดูร้อนนี้จะเริ่มบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และภาคตะวันออก ก่อนในระยะแรก ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง
จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป
ส่วนภาคใต้จะมีคลื่นกระแสลมตะวันออกจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมในช่วงวันที่
9-11 มี.ค. ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ภาคเหนือ
-
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดมุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ
ภาคกลาง
-
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา
และปัตตานี
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
|
ดัชนีการเกิดไฟป่า
|
ความหมาย |
|
ต่ำ (Low) |
โอกาสเกิดไฟยากมาก
หากเกิดไฟ
ไฟจะแทบไม่มีโอกาสลุกลามแผ่ขยายจากจุดเริ่มต้น
หรือถ้ามีการลุกลามแผ่ขยายออกไป ก็จะสามารถควบคุมได้โดยง่ายมาก
|
|
ปานกลาง
(Moderate) |
โอกาสที่เกิดไฟง่ายขึ้น และไฟจะลุกลามออกไปได้มากกว่าไฟใน
Class low
แต่จะเป็นไฟลักษณะของไฟที่คืบคลานไปตามผิวดินเท่านั้น
การควบคุมไฟทำได้โดยใช้พนักงานดับไฟป่า และเครื่องมือพื้นฐาน
เข้าทำการดับไฟป่าทางตรง หรือดับไฟทางอ้อม โดยการทำแนวกันไฟ
|
|
สูง (High) |
โอกาสเกิดไฟป่ามีมาก และไฟจะลุกลามออกไปได้มากกว่าไฟใน
Class Moderate
โดยเปลวไฟมีความรุนแรงปานกลางสูงทำให้การควบคุมไฟป่าทำได้ยาก
การดับไฟป่าทางอ้อมโดยการทำแนวกันไฟอาจจะไม่เพียงพอ
จำเป็นต้องใช้เครื่องมือหนัก เช่น เครื่องสูบน้ำดับเพลิง,
รถแทรกเตอร์,
เฮลิคอปเตอร์ หรือเครื่องบินทิ้งน้ำดับไฟป่า
เพื่อช่วยการดับไฟที่บริเวณหัวไฟ |
|
สูงมาก
(Extreme) |
เกิดภาวะความแห้งแล้งรุนแรง
โอกาสในการเกิดไฟป่าสูงมากและเป็นไฟที่มีความรุนแรงสูงมาก
การดับไฟทางตรงจะต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด
โอกาสที่จะควบคุมไฟได้มีน้อย |
การตรวจติดตามสถานการณ์ไฟป่าด้วยดาวเทียม Aqua โดยระบบ MODIS
จากทางเว็บไซด์
http://rapidfire.sci.gsfc.nasa.gov/subsets/?subset=Indochina2
ในวันที่
4
มีนาคม 55
พบจุด hotspot
%20(3).jpg)
4.
พื้นที่จังหวัดที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดไฟป่า
ภาคเหนือ
: อุณหภูมิสูงสุดประมาณ
37
องศาเซลเซียส
ความชื้นสัมพัทธ์ 55-65% ดัชนีการเกิดไฟป่า (Fire
Weather Index; FWI)
อยู่ในระดับ
สูงมาก
(Extreme)
และขอให้ระมัดระวังในการใช้ไฟ ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับป่า โดยเฉพาะท้องที่ จ.เชียงใหม่
จ.เชียงราย จ.ลำพูน
จ.ลำปาง
จ.ตาก
จ.แพร่ จ.สุโขทัย
จ.พิจิตร
จ.เพชรบูรณ์
และ
จ.พิษณุโลก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
:
อุณหภูมิสูงสุดประมาณ
37
องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์
55-65%
ดัชนีการเกิดไฟป่า (Fire
Weather Index; FWI)
อยู่ในระดับ สูงมาก
(Extreme) และขอให้ระมัดระวังในการใช้ไฟ
ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับป่า โดยเฉพาะท้องที่
จ.นครราชสีมา
จ.ชัยภูมิ
จ.ขอนแก่น
จ.มหาสารคาม
จ.สุรินทร์
และ จ.บุรีรัมย์
ภาคกลาง
:
อุณหภูมิสูงสุดประมาณ
38 องศาเซลเซียส
ความชื้นสัมพัทธ์
60-70% ดัชนีการเกิดไฟป่า
(Fire
Weather Index; FWI)
อยู่ในระดับ สูงมาก
(Extreme)
และขอให้ระมัดระวังในการใช้ไฟ
ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับป่า โดยเฉพาะท้องที่ จ.ราชบุรี
จ.กาญจนบุรี
จ.สุพรรณบุรี
จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ จ.อุัทัยธานี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี และ จ.อ่างทอง
ภาคตะวันออก
: อุณหภูมิสูงสุดประมาณ
37 องศาเซลเซียส
ความชื้นสัมพัทธ์
70-80% ดัชนีการเกิดไฟป่า
(Fire
Weather Index; FWI)
อยู่ในระดับ สูงมาก
(Extreme) และขอให้ระมัดระวังในการใช้ไฟ
ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับป่า โดยเฉพาะท้องที่
จ.นครนายก จ.ปราจีนบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
:
อุณหภูมิสูงสุดประมาณ
33
องศาเซลเซียส
ความชื้นสัมพัทธ์
70-80% ดัชนีการเกิดไฟป่า
(Fire
Weather Index; FWI)
อยู่ในระดับตั้งแต่
ต่ำ (Low)
ไปจนถึง
สูงมาก
(Extreme)
และขอให้ระมัดระวังในการใช้ไฟ ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับป่า โดยเฉพาะท้องที่
จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี
และ จ.นครศรีธรรมราช
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
: อุณหภูมิสูงสุดประมาณ
33 องศาเซลเซียส
ความชื้นสัมพัทธ์
70-80% ดัชนีการเกิดไฟป่า
(Fire
Weather Index; FWI)
อยู่ในระดับตั้งแต่
ต่ำ (Low)
ไปจนถึง
สูงมาก
(Extreme) และขอให้ระมัดระวังในการใช้ไฟ
ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับป่า
โดยเฉพาะ ท้องที่
จ.พังงา จ.กระบี่ จ.ตรัง และ จ.สตูล
พยากรณ์สถานการณ์ไฟป่าย้อนหลัง
|