| | | Dendrobium polyanthum Wall. ex Lindl. |
|
กล้วยไม้อิงอาศัย ลำต้นหนา ส่วนมากห้อยลง ยาวได้ถึง 80 ซม. มีริ้วตามยาว ใบเรียงเวียน รูปใบหอกหรือแกมรูปไข่ ยาว 5–12 ซม. ปลายมน เว้าตื้น ๆ โคนโอบลำต้น กาบบาง ช่อดอกออกจากลำต้นที่ใบร่วง มี 1–3 ดอก ดอกสีชมพูหรือชมพูอ่อน ๆ กลีบปากสีครีมอมเหลืองอ่อน ๆ เส้นกลีบสีเข้ม กลีบเลี้ยงรูปใบหอก ยาวประมาณ 3 ซม. ปลายแหลม คางรูปกรวยแคบ ยาวประมาณ 5 มม. ปลายมน กลีบดอกรูปใบหอก ยาวเท่า ๆ กลีบเลี้ยง แคบกว่าเล็กน้อย ปลายมน กลีบปากรูปไข่กลับกว้าง กว้างประมาณ 3.5 ซม. ปลายเว้าตื้น ๆ โคนพับงอโอบเส้าเกสร มีขนสั้นนุ่มทั้งสองด้าน ขอบจักไม่เป็นระเบียบ เส้าเกสรยาวประมาณ 3 มม. ก้านดอกรวมรังไข่ยาว 2–2.5 ซม. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ เอื้องตาเหิน, สกุล)
พบที่อินเดียรวมหมู่เกาะอันดามัน จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามคบไม้ในป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ป่าสนเขา และป่าดิบเขา ความสูงถึงประมาณ 1600 เมตร
| ชื่อพ้อง Dendrobium cretaceum Lindl., D. primulinum Lindl.
| | | ชื่ออื่น เอื้องสายน้ำเขียว (เชียงใหม่), เอื้องสายน้ำผึ้ง, เอื้องสายประสาท, เอื้องสายเหลือง (กรุงเทพฯ)
| | เอื้องสายประสาท: ลำต้นหนา ส่วนมากห้อยลง ช่อดอกออกจากลำต้นที่ใบร่วง ดอกสีชมพูหรือชมพูอ่อน ๆ กลีบปากรูปไข่กลับกว้าง สีครีมอมเหลืองอ่อน ๆ เส้นกลีบสีเข้ม มีขนสั้นนุ่มทั้งสองด้าน (ภาพ: ปรีชา การะเกตุ)
|
|
|
| เอกสารอ้างอิง | Seidenfaden, G. (1985). Orchidaceae genera in Thailand XII. Dendrobium Sw. (Dendrobium cretaceum, D. primulinum). Opera Botanica 83: 69–70, 75. |
| Zhu, G., Z. Ji, J.J. Wood and H.P. Wood. (2009). Orchidaceae (Dendrobium). In Flora of China Vol. 25: 380. |