Index to botanical names
ขี้กา
Cucurbitaceae
ไม้เถา ส่วนมากแยกเพศต่างต้น มักมีใบประดับที่โคนช่อดอก (probract) มือจับส่วนมากแยกแขนง ใบเรียบ จักเป็นพู หรือมี 3–5 ใบย่อย แผ่นใบมีต่อมกระจาย ช่อดอกเพศผู้มีดอกเดียวหรือแบบช่อกระจะ ดอกเพศเมียออกเดี่ยว ๆ คล้ายดอกเพศผู้ ก้านดอกขยายในผล กลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ กลีบดอกจักชายครุยรูปเส้นด้าย เกสรเพศผู้ 3 อัน ติดใกล้ปากหลอดกลีบดอก ก้านชูอับเรณูสั้น อับเรณูติดกัน จานฐานดอกจักรูปแถบ 3 พู รังไข่ใต้วงกลีบ มีช่องเดียว พลาเซนตาตามแนวตะเข็บ 3 แนว ออวุลจำนวนมาก ก้านเกสรเพศเมียเรียวยาว ยอดเกสรแฉกลึก 3–5 แฉก ผลสดมีหลายเมล็ด เนื้อข้างในส่วนมากสีดำอมเขียว รสขม ถ้าสีขาวหรือแดงไม่ขม เมล็ดจำนวนมาก ส่วนมากแบนสกุล Trichosanthes มีประมาณ 100 ชนิด พบในเอเชียเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยมี 18 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “trichos” ขน และ “anthos” ดอก ตามลักษณะชายครุยของกลีบดอก
ไม้เถา ยาวได้ถึง 20 ม. มีขนสั้นตามกิ่ง ใบประดับนอก แผ่นใบด้านล่าง ช่อดอก และรังไข่ มือจับแยก 2–3 แขนง ใบประดับที่โคนช่อดอกรูปใบหอกหรือรูปแถบ ยาว 1–5 ซม. ใบรูปไข่กว้างหรือจักลึก 3–5 พู ยาว 3–15 ซม. โคนเว้าลึก ขอบจักฟันเลื่อย แผ่นใบสากด้านบน ก้านใบยาว 5–11 ซม. ช่อดอกเพศผู้ยาวได้ถึง 22 ซม. ใบประดับสีแดงอมน้ำตาล รูปไข่กลับ ยาว 2.5–4.5 ซม. ขอบจัก มีต่อมกระจาย ดอกเพศผู้ก้านดอกยาว 2–6 มม. ฐานดอกยาว 2–5.5 ซม. กลีบเลี้ยงรูปใบหอก ยาว 0.7–2.3 ซม ดอกสีขาวมีเส้นกลีบสีแดงหรือชมพู ยาว 2–3 ซม. ชายครุยยาวประมาณ 1 ซม. ดอกเพศเมียก้านดอกยาวประมาณ 1 ซม. ผลรูปรีกว้าง ยาว 5–8 ซม. เนื้อด้านในสีดำอมเขียวพบที่อินเดีย ศรีลังกา จีนตอนใต้ พม่า และภูมิภาคอินโดจีน ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามที่โล่ง และชายป่า ความสูงถึงประมาณ 1700 เมตร แยกเป็น var. fissisepala Duyfjes & Pruesapan กลีบเลี้ยงในดอกเพศผู้จักลึก ส่วน subsp. puberaพบเฉพาะในภูมิภาคมาเลเซีย ช่อดอกเพศผู้มีใบประดับสีเขียว และดอกสีขาว
ชื่อพ้อง Trichosanthes rubriflos Cayla
ขี้กาแดง: ดอกเพศเมีย ออกเดี่ยวๆ ช่อดอกเพศผู้ ใบประดับสีแดงอมน้ำตาล ผลรูปรีกว้าง (ภาพ: ปรีชา การะเกตุ)
ไม้เถา ยาวได้ถึง 25 ม. ลำต้นช่วงปลายสีแดงอมม่วง มือจับแยก 2–5 แขนง ใบประดับที่โคนช่อดอกรูปไข่ ยาว 3–8 มม. สีเขียว มีต่อม ใบรูปรีกว้าง จักตื้น ๆ 3–5 พู ยาว 12–24 ซม. ขอบจักฟันเลื่อยห่าง ๆ ก้านใบยาว 5–9 ซม. ช่อดอกยังไม่เคยพบ ผลรูปไข่ ยาว 6–8 ซม. เนื้อด้านในสีดำอมเขียว ปลายผลเป็นจะงอยสั้น ๆ ก้านผลยาว 3–6.5 ซม. เมล็ดเบี้ยว ยาว 1.3–1.6 ซม. ขอบมีสันพืชถิ่นเดียวของไทย พบทางภาคเหนือที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ดอยภูคา จังหวัดน่าน และภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่กาญจนบุรี ขึ้นตามป่าดิบเขา ความสูง 1300–1700 เมตร
ขี้กาแดง: ใบจักตื้น ๆ 3–5 พู ขอบจักฟันเลื่อยห่าง ๆ ก้านผลยาว ผลรูปไข่ (ภาพ: Brigitta Duyfjes)
ไม้เถา ยาวได้ถึง 20 ม. มือจับแยก 2–5 แขนง ใบประดับโคนช่อดอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ยาว 0.8–1.5 ซม. ใบรูปรีกว้าง ยาว 8–20 ซม. จักตื้น ๆ หรือจักลึก 3–5 พู โคนแฉกลึก แผ่นใบสากด้านบน ก้านใบยาว 2.5–10 ซม. ช่อดอกเพศผู้ยาว 10–30 ซม. ใบประดับรูปไข่กลับ ยาว 1.5–2.5 ซม. มีต่อมใกล้เส้นกลางกลีบ ก้านดอกยาว 0.2–1 ซม. ฐานดอกยาว 3–5 ซม. กลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยมแคบ ยาว 1–1.5 ซม. จักตื้น ๆ ใกล้โคน ดอกสีขาว ยาวประมาณ 2 ซม. ชายครุยยาว 1–1.5 ซม. ดอกเพศเมียก้านดอกยาว 0.5–2 ซม. ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 5–7 ซม. เนื้อด้านในสีดำอมเขียวพบที่จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีนและภูมิภาคมาเลเซีย นิวกินี ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามที่โล่ง ชายป่า บนเขาหินปูน ความสูงถึงประมาณ 1000 เมตร เมล็ดบดเป็นผงแก้ปวดท้อง น้ำมันจากเมล็ดแก้คัน
ชื่ออื่น กระดึงช้าง (ประจวบคีรีขันธ์); ขี้กากอน, ขี้กาใหญ่, ต้มกา (นครราชสีมา); บวบเหลี่ยม (ทั่วไป); ลูกขี้กา (ภาคกลาง)
ขี้กากอน: ดอกเพศเมียออกเดี่ยว ๆ กลีบดอกจักชายครุยรูปเส้นด้าย (ภาพ: ราชันย์ ภู่มา)
ไม้เถา ยาวได้ถึง 10 ม. มีขนสั้นตามกิ่ง แผ่นใบด้านล่าง ช่อดอก และรังไข่ มือจับแยก 2–3 แขนง ไม่มีใบประดับที่โคนช่อดอก ใบรูปไข่กว้างหรือจัก 3–5 พู ยาว 10–25 ซม. ขอบเรียบหรือจักฟันเลื่อย มีต่อมเล็กน้อย ก้านใบยาว 3–7 ซม. ช่อดอกเพศผู้ยาว 10–25 ซม. ใบประดับรูปไข่กลับหรือรูปขอบขนาน ยาว 0.6–2 ซม. ขอบจักซี่ฟัน ก้านดอกยาว 0.3–2.5 ซม. ฐานดอกยาว 1.5–4.5 ซม. กลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยม ยาวได้ถึง 1.5 ซม ขอบเรียบ ดอกสีขาว กลีบรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาวประมาณ 1 ซม. ชายครุยยาว 0.7–1.7 ซม. ดอกเพศเมียก้านดอกยาวประมาณ 1 ซม. ผลรูปรีแคบ ยาว 4–6 ซม. มีแถบสีจาง เนื้อเยื่อด้านในสีขาวหรือส้มอมแดงพบที่อินเดีย จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย ออสเตรเลีย และหมู่เกาะโซโลมอน ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามที่โล่ง ชายป่า ความสูงถึงประมาณ 1700 เมตร แยกเป็น var. roseipulpa W.J.de Wilde & Duyfjes เนื้อเยื่อในผลสีส้มอมแดง พืชถิ่นเดียวของไทย พบที่ดอยภูคา จังหวัดน่าน
ขี้กาขาว: ใบจักลึกเป็นพู ผลรูปรีแคบ (ภาพ: ราชันย์ ภู่มา)
de Wilde, W.J.J.O. and B.E.E. Duyfjes. (2008). Cucurbitaceae. In Flora of Thailand Vol. 9(4): 514–540.