กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 









 

 

 

สัตบรรณ

 

ชื่อวิทยาศาสตร์  Alstonia scholaris  (L.) R. Br.

ชื่อวงศ์  Apocynaceae

ชื่อสามัญ   

ชื่อทางการค้า   White cheese wood, Shaitan wood, Devil tree, Black-board tree-

ชื่อพื้นเมือง  


   ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่  สูง 35 - 40 เมตร    โคนต้นมักจะเป็นพูพอน  ลำต้นเป็นร่องตามยาว  เปลือกสีเทาหรือเทาอมเหลืองหรือสีน้ำตาลถึงน้ำตาลแดง  ค่อนข้างหนาแต่เปราะเรียบหรือแตกเป็นร่อง  เปลือกชั้นในสีน้ำตาลมีน้ำยางสีขาวไหลมาก

                        รูปทรง (เรือนยอด)   เรือนยอดของต้นเล็กรูปเจดีย์  ต้นใหญ่เรือนยอดค่อนข้างแบน

                        ใบ   ดี่ยวเรียงเป็นวงรอบกิ่งวงละ 5 - 8 ใบ  แผ่นใบรูปรีแกมรูปขอบขนานถึงรูปหอกแกมรูปขอบขนาน  หรือรูปมนแกมรูปบรรทัด  ปลายใบมักแหลมเป็นติ่งเล็กน้อย  โคนใบสอนเข้าหากัน ขอบใบเรียบ  ผิวใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน  ด้านบนมีสีเขียวเข้ม  ด้านล่างสีขาวนวล  ก้านใบยาว เส้นขนานใบมาก ทำมุมฉากกับเส้นกลางใบและขอบใบ

                        ดอก  ขนาดเล็กสีขาว อมเขียว  ออกดอกเป็นช่อปลายกิ่ง   ปากท่อของกลีบดอกมีขนยาวปุกปุย

                                       สี  

                                       กลิ่น  

                                       ออกดอก  ดอกเริ่มบานประมาณเดือน ต.ค. - ธ.ค.

                        ผล  เป็นฝักกลมยาวเรียวเกลี้ยง และห้อยลงสู่พื้นดิน  ฝักออกเป็นคู่ขนาดโต เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 - 5 ซม. ยาว 30 - 40 ซม. เมล็ดภายในรูปทรงบรรทัดแคบ ๆ ยาวประมาณ 7 มม.  มีขนยาวอ่อนนุ่มปุกปุยติดอยู่เป็นกระจุกที่ปลายทั้งสองข้าง เมื่อฝักแก่จะแตกออกเมล็ด  ซึ่งมีขนจะปลิวกระจายไปตามลม 

                                       ผลแก่  จะเริ่มเป็นฝักประมาณเดือนมกราคม  

   

     ไม้ตีนเป็ดมีเขตการกระจายพันธุ์ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ลักษณะการขึ้นมักกระจัดกระจายอยู่ห่าง ๆ กัน ไม่พบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม การกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติ ค่อนข้างต่ำ มักไม่พบลูกไม้บริเวณใต้ลำต้น หรือใกล้เคียงต้นแม่ในป่าธรรมชาติ   มักพบอยู่ในบริเวณป่าที่ราบบริเวณป่าพงและริมลำห้วยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ พบอยู่ตามริมห้วยในป่าเบญจพรรณ ไม่พบไม้ตีนเป็ดในป่าเต็งรังหรือบริเวณป่าที่สูงในต่างประเทศพบที่อินเดีย จีนตอนใต้ อินโดนิเซีย มาเลเซีย และควีนแลนด์

  การขยายพันธุ์และการผลิตกล้า  ขยายพันธุ์โดยอาศัยการเพาะเมล็ดทำได้สะดวกที่สุด ประหยัด และได้ผลดี นอกจากการผลิตกล้าโดยใช้เมล็ดแล้วการผลิตกล้าตีนเป็ด ยังสามารถทำได้โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมีการเจริญเติบโตดี   คัดเลือกแม่พันธุ์ที่มีลักษณะดีลำต้นเปลาตรง สูงเด่น มีเรือนยอดสมบูรณ์ ลำต้นแข็งแรง ไม่มีโรคแมลงรบกวน  นำฝักที่สอยมาคลุมด้วยมุ้งลวดพลาสติก ตากแดด 2 วัน ฝักจะแตกออกแล้วแยกเมล็ดไปเพาะด้วยการหว่านเมล็ด ในกระบะบรรจุทรายหยาบ หรือดินร่วนให้กระจายทั้งกระบะแล้วโรยทรายกลบ อีกชั้นหนึ่ง พรางแสงประมาณ 50% รดน้ำเช้า - เย็น เมล็ดจะงอกภายใน 7-12 วัน ปล่อยให้กล้าเจริญเติบโตอีก 1 สัปดาห์  จึงย้ายชำลงในถุงชำซึ่งใส่ดินร่วน ปนทรายผสมปุ๋ยคอก รดน้ำวันละ 2-3 ครั้ง ดูแลอย่างดี เมื่อกล้าไม้อายุ 3 เดือน จะสูงประมาณ 10-15 ซม.  เหมาะนำไปปลูกได้

  ปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการปลูก 

                        ดิน  ชอบดินที่มีการระบายน้ำดี  และมีความชื้นสูง

                        ความชื้น   ชอบความชื้นสูง

                        แสง   

  การปลูกดูแลบำรุงรักษา   

                       การคัดเลือกพื้นที่และเตรียมพื้นที่ปลูก   ควรไถพรวน และกำจัดวัชพืชก่อนปลูก 1 สัปดาห์

                        วิธีการปลูกและระยะปลูกที่เหมาะสม    ควรนำกล้าไม้ไปปลูกหลังจากวันที่มีฝนตกหนัก  กลบดินและกดรอบ ๆ โคนกล้าไม้ให้แน่น  ถ้าเป็นพื้นที่ค่อนข้างแห้งและดินด้านล่างไม่อุ้มน้ำ ระดับดินที่กลบควรให้เป็นแอ่งลึกรอบโคนต้นลึกกว่าระดับผิวดินเล็กน้อย  เพื่อให้เป็นแอ่งขังน้ำเลี้ยงต้นไม้ 

  โรคและแมลง     การป้องกันโรคแมลง  ปัจจุบันไม่พบโรคแมลง แต่วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การกำจัดวัชพืชและจัดการให้สวนป่าสะอาดอยู่เสมอ

  อัตราการเจริญเติบโต   -

 
    
เริ่มมีการส่งออกดินสอดำเนื้อไม้ตีนเป็ดไปจำหน่ายยังต่างประเทศ  ได้แก่ บังคลาเทศ  พม่า  ฮ่องกง  ลาว  สิงคโปร์  มาเลเซีย  เยอรมัน ฯลฯ

                       การเก็บรักษา   -

                       การแปรรูป  -

                       การตลาด  -

                       การบริโภค  -

                       การนำเข้า -

                       การส่งออก  -



                     
การใช้ประโยชน์ทางด้านเนื้อไม้ 
การใช้ประโยชน์ทางด้านเนื้อไม้ เนื้อไม้มีสีขาวอมเหลืองเหมาะสมสำหรับใช้ก่อสร้างภายใน ทำเครื่องใช้ต่าง ๆ

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านนิเวศน์   ให้ร่มเงา  ให้ความร่มรื่น  ป้องกันลม  ให้ความชุ่มชื่น  ฯลฯ

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านภูมิสถาปัตย์  ปลูกประดับอาคารสถานที่

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านโภชนาการ  -

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร เปลือกใช้แก้ไข้ ขับฤดู ขับพยาธิ ขับน้ำเหลืองเสีย ขับน้ำนม รักษามาเลเลีย แก้ท้องเสีย แก้บิด แก้ไอ รักษาเบาหวาน
                               -  Latex จากต้นอุดฟันแก้ปวดฟัน แก้แผลอักเสบ หยอดหูแก้ปวด
                               -  ใบอ่อนใช้ชงดื่มรักษาโรคลักปิดลักเปิด แก้ไข้หวัด


    
ไม้ตีนเป็ดเป็นไม้ที่มีประโยชน์หลากหลายทั้งในด้านการอนุรักษ์ ช่วยให้พื้นที่เขียวชอุ่มและให้ความชุ่มชื้น  แต่ในการปลูกสร้างสวนป่า ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาถึงอัตราการเจริญเติบโตจนถึงอายุตัดฟันที่เหมาะสม ในการนำไม้ไปใช้ประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว