กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 









 

 

 

ยางบง

 

ชื่อวิทยาศาสตร์  Persea Kurzii Kosterm.

ชื่อวงศ์  Lauraceae

ชื่อสามัญ   ยางบง

ชื่อทางการค้า   -

ชื่อพื้นเมือง  บง ปง มง หยี ยางบง


   เป็นไม้ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ความสูงประมาณ 10-15 ม. เปลือกค่อนข้างหนาสีเทาแก่ เปลือกในมีสีขาว และสีแดง ไม่ผลัดใบ

                        รูปทรง (เรือนยอด)  เป็นพุ่มกว้าง 

                        ใบ   ใบมีขนาดกลางเป็นรูปไข่ โคนเรียว ปลายใบแหลม ผลิออกจากกิ่งสลับกัน เนื้อใบหนา

                        ดอก  ดอกเป็นช่อดอกที่ปลายกิ่ง

                                       สี  -

                                       กลิ่น  -

                                       ออกดอก  -

                        ผล  ผลกลมเล็กคล้ายผลหว้า มีเยื่อหุ้มผล เมล็ดมีเมล็ดเดี่ยว

                                       ผลแก่  ประมาณ มีนาคม - เมษายน

   -

 


     เป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ในป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง มีมากในบางจังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะในแถบที่มีฝนตกชุกมาก ๆ แถบจังหวัดมุกดาหาร นครพนม อุบลราชธานี และบางท้องที่ในภาคเหนือ

  การขยายพันธุ์และการผลิตกล้า   เพาะเมล็ด เมล็ดมีเปอร์เซ็นต์การงอกประมาณ 80-90% โดยเมล็ดจะเริ่มงอกหลังจากเพาะแล้วประมาณ 15-30 วัน ควรเพาะหลังจากเก็บเมล็ดไม่เกิน 30 วัน ต้องเอาเยื่อหุ้มผลออกก่อน โดยการขยำด้วยมือ จะเพาะด้วยการเพาะลงถุงโดยตรง หรือเพาะลงแปลงเพาะก็ได้

  ปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการปลูก   -

                        ดิน  ดินร่วนปนทราย อุ้มน้ำได้ดี และเป็นดินลึก เช่น ที่นาหรือบนดินนา 

                        ความชื้น  ปริมาณน้ำฝนควรอยู่ระหว่าง 1,200-2,000 มม./ปี

                        แสง   -

  การปลูกดูแลบำรุงรักษา   

                       การคัดเลือกพื้นที่และเตรียมพื้นที่ปลูก   ควรใช้รถแทรกเตอร์เข้าไถพรวนดินเสียก่อน เพื่อจะได้ลดการแ่ก่งแย่งของวัชพืชในระยะแรก

                        วิธีการปลูกและระยะปลูกที่เหมาะสม    ขนาดหลุมที่พอเหมาะในการปลูกควรมีขนาดกว้าง 30 ซม. ยาว 30 ซม. ลึก 40 ซม. กันหลุมให้ใช้ฟางข้าวแห้ง หญ้าแห้ง ใบไม้แห้ง รองก้นหลุม เพื่อเก็บความชื้น ระยะปลูกคือ 4 x 4 ม. (ไร่ละ 100 ต้น) การถางวัชพืชทุก ๆ 3 เดือน

  โรคและแมลง   -

  อัตราการเจริญเติบโต   ในแต่ละท้องถิ่นจะมีอัตราการเจริญเติบโตแตกต่างกัน เนื่องจากปัจจัยแวดล้อม เช่น ปริมาณน้ำฝน สภาพพื้นที่ดิน ซึ่งในการปลูกต้องคำนึงถึงปัจจัย เหล่้านี้ให้มาก

 

                       การเก็บรักษา   -

                       การแปรรูป   ใช้เปลือก ไม้บง บดให้ละเอียดผสมขี้เลื่อยและการใช้ทำรูปและผสมกำมะถันใช้ทำยากันยุงได้ดี ปกติจะใช้เปลือกได้เมื่ออายุ 6-7 ปี

                       การตลาด  -

                       การบริโภค  -

                       การนำเข้า -

                       การส่งออก  -



                     
การใช้ประโยชน์ทางด้านเนื้อไม้ 
นิยมใช้ทำเครื่องมือ เครื่องใช้ เพราะมีความทนทานพอสมควร

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านนิเวศน์ -

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านภูมิสถาปัตย์  -

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านโภชนาการ  -

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร  การใช้ประโยชน์ของยาง  ไม้บงมีน้ำยางเมือกใส ขาวเหมือนนมสด ใช้อุดรอยรั่วต่าง ๆ ได้ดี ใช้เป็นส่วนผสมในการทำฟิล์มภาพยนตร์