ชื่อวิทยาศาสตร์  Afzelia  xylocarpa  (Kurz)  Craib

ชื่อวงศ์  Leguminosae - Caesalpinioideae

ชื่อสามัญ   -

ชื่อทางการค้า   -

ชื่อพื้นเมือง  มะค่าใหญ่  มะค่าหลวง

    เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง 15 - 20 เมตร

                        รูปทรง (เรือนยอด)   เป็นทรงพุ่มแผ่กว้าง

                        ใบ    เป็นช่อ ติดเรียงสลับ แต่ละช่อมีใบย่อยที่ติดตรงเป็นคู่ ๆ 3 - 5 คู่ ใบรูปไข่ หรือรูปรี ๆ

                        ดอก  ออกรวมกันเป็นช่อโต ๆ ตามปลายกิ่ง ช่อยาว 5 - 15 ซม.

                                       สี   เขียวอ่อน แต้มสีแดงเรือง ๆ

                                       กลิ่น  -

                                       ออกดอก  ระหว่าง ก.พ. - มี.ค.

                        ผล  เป็นฝักแบนแข็ง ๆ รูปขอบขนาน กว้าง 7 - 10 มม. ยาว 12 - 20 ซม. ผนังฝักหนาและแข็งมากเมื่อฝักแก่จะแตกตามรอยประสานภายใน จะมีเมล็ดเรียงเป็นแนวขวาง 4 - 5 เมล็ด

                                       ผลแก่  ระหว่าง มิ.ย. - ส.ค.

     ขึ้นกระจายในป่าเบญจพรรณชื้นและป่าดิบแล้งทั่วไปของประเทศ

  การขยายพันธุ์และการผลิตกล้า   โดยวิธีเพาะเมล็ด

  ปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการปลูก 

                        ดิน  ชอบดินร่วน  ระบายน้ำดี

                        ความชื้น 

                        แสง   ต้องการแสงแดดครึ่งวัน

  การปลูกดูแลบำรุงรักษา    

                       การคัดเลือกพื้นที่และเตรียมพื้นที่ปลูก   ควรเลือกพื้นที่ราบเรียบไม่เป็นที่น้ำท่วมขังเมื่อฝนตก สภาพความอุดมสมบูรณ์พอใช้ ก่อนปลูกควรทำความสะอาดแปลง และไถพรวนพื้นที่

                        วิธีการปลูกและระยะปลูกที่เหมาะสม    ระยะปลูกที่เหมาะสมคือ 4 x 4 เมตร

  โรคและแมลง  แมลงปีกแข็งกัดกินเมล็ด ตัวตุ่น และจิ้งหรีด กัดกินรากทำให้ต้นไม้ตายได้

  อัตราการเจริญเติบโต   ค่อนข้างช้า

                       การเก็บรักษา   -

                       การแปรรูป  -

                       การตลาด  -

                       การบริโภค  -

                       การนำเข้า -

                       การส่งออก  -

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านเนื้อไม้   ใช้ในการก่อสร้างต่าง ๆ ทำเครื่องมือกสิกรรม เครื่องดนตรี

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านนิเวศน์  ให้ร่มเงา ให้ความชุ่มชื้น ปลูกกันแนวกันลม

                     การใช้ประโยชน์ทางด้านภูมิสถาปัตย์  -

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านโภชนาการ   เนื้อในเมล็ดอ่อนใช้รับประทานได้

                      การใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร -

     อ้างอิง : 2541, ป่าพื้นบ้านอาหารชุมชน, กรมป่าไม้  2544, สถิติการป่าไม้ของประเทศไทย, กรมป่าไม้