ชื่อวิทยาศาสตร์
Diospyros rhodocalyx Kuarz.
ชื่อวงศ์ Ebenaceae
ชื่อสามัญ
ตะโกนา
ชื่อทางการค้า
Ebony
ชื่อพื้นเมือง โก
(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
ตะโกนา (ทั่วไป) นางัว (นครราชสีมา)
มะโก (ภาคเหนือ) มะถ่านไฟผี (เชียงใหม่)

เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก-กลาง
สูง 8-15 ม. ไม้ผลัดใบ
ลำต้นเปลาตรง แตกกิ่งต่ำ
เปลือกสีดำ แตกเป็นสะเก็ดหนา
ๆ
รูปทรง (เรือนยอด)
เป็นพุ่มกลมหรือรูปไข่
ทับ ปลายกิ่งมักห้อยลู่ลง
ใบ เป็นใบเดี่ยว
ติดเรียงสลับ ใบรูปไข่
ป้อมหรือรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
กลาย ๆ ขนาด 2.5-7 x 3-12 ซม.
โคนใบสอบรูปลิ่ม
บางที่มนหรือป้าน
ปลายใบมนป้าน
หรือหยักเว้าเข้า
เนื้อใบค่อนข้างหนา
หลังใบเกลี้ยง
ท้องใบอ่อนมีขนประปราย
ใบแก่ท้องใบเกลี้ยง
ขอบใบเรียบ ก้านใบยาว 2-7 มม.
ดอก ออกเป็นช่อเล็ก
ๆ ช่อละประมาณ 3 ดอก
ออกตามต้นใบ
ทั้งกลีบดอกและกลีบเลี้ยงมีอย่างละ
4 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกัน
สี ขาวหรือเหลืองอ่อน
กลิ่น -
ออกดอก
มีนาคม -
เมษายน
ผล รูปทรงกลม
เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 ซม.
ผลอ่อนสีเหลืองเขียว
กลีบจุกผลมีเส้นลายกลีบพอสังเกตเห็นได้
ผลแก่ มีนาคม - เมษายน

พบขึ้นทั่วไปตามป่าเบญจพรรณแล้ว
ป่าละเมาะและทุ่งนา
ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 40-300 ม.
ทั่วประเทศไทย
ในต่างประเทศพบในพม่า ลาว
และเวียดนาม

การขยายพันธุ์และการผลิตกล้า
เพาะเมล็ด
ปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการปลูก
-
ดิน
ทุกชนิด
ความชื้น
ปานกลาง
- น้อย
แสง
มาก
การปลูกดูแลบำรุงรักษา
-
การคัดเลือกพื้นที่และเตรียมพื้นที่ปลูก
-
วิธีการปลูกและระยะปลูกที่เหมาะสม
-
โรคและแมลง -
อัตราการเจริญเติบโต
-
การเก็บรักษา
-
การแปรรูป -

การตลาด -
การบริโภค -
การนำเข้า -
การส่งออก -

การใช้ประโยชน์ทางด้านเนื้อไม้
เนื้อไม้สีขาวหรือออกสีน้ำตาลอ่อน
เนื้อค่อนข้างละเอียด
เหนียวใช้ทำด้ามเครื่องมือทางการเกษตร
เสก รอด ตอ คาน
การใช้ประโยชน์ทางด้านนิเวศน์
ตะโกมีผลดกออกทุกปี
เป็นอาหารให้แก่สัตว์จำนวนมาก
การใช้ประโยชน์ทางด้านภูมิสถาปัตย์
ต้นตะโกนิยมนำเอามาทำไม้ดัด
เพื่อตกแต่งสวน หรือสนามหญ้า
ปลูกและเลี้ยงดูง่าย
การใช้ประโยชน์ทางด้านโภชนาการ
ผลสุกรับประมานเป็นอาหารได้
รสหวานปนฝาด
การใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร
ผล
มีรสฝาดหวาน แก้ท้องร่วง
แก้ตกเลือด แก้ปวดท้อง
จับพยาธิ แก้กระษัย แก้ฝี
และแผลเน่าเปื่อย
เปลือกลูก รสฝาด เผาเป็นถ่าน
รสเย็น ขับระดูขาว
และขับปัสสาวะ
เปลือกต้น, เนื้อไม้
รสเฝื่อนฝาดขม บำรุงธาตุ
ช่วยย่อยอาหาร
บำรุงความกำหนัด
ทำให้เกิดกำลัง แก้มุตกิต
ระดูขาว แก้รำมะนาด ปวดฟัน
และเป็นยาอายุวัฒนะ
วิธีใช้
1. ใช้แก้รำมะนาด ปวดฟัน
ใช้เปลือกต้น และเนื้อไม้
ต้มเอาน้ำอมกับเกลือ
2. ใช้ขับระดูขาว ขับปัสสาวะ
ใช้เปลือกต้น เผาเป็นถ่าน
มีคุณสมบัติเป็นด่าง
เอาไปแช่น้ำรับประทาน
การใช้ประโยชน์ทางด้านอื่น ๆ
ผลดิบมียางใช้ย้อมแห
หรืออวนได้
แต่คุณภาพไม่ดีเท่ามะพลับ

|