
ชื่อวิทยาศาสตร์
Aquilaria crassna Pierre ex Lecomte (1)
ชื่อวงศ์
THYMELAEACEAE (1)
ชื่อสามัญ
กฤษณา (1)
ชื่อทางการค้า
Agarwood,
Eagle-wood, Lignvm Alocwood, Calambac (1)
ชื่อพื้นเมือง ไม้หอม
(ภาคตะวันออก) (1)

กฤษณาเป็นไม้ต้นขนาดกลาง
- ใหญ่
ไม่ผลัดใบ สูง 25-30 ม. ลำต้นเปลาตรง
แต่ต้นที่มีอายุมากๆ
มักจะมีพูพอนที่โคนต้น
มีขนคล้ายเส้นไหมเป็นมันตามปลายยอด
เปลือกนอกเรียบสีขาวหรือเทา
(3)
รูปทรง (เรือนยอด) เป็นพุ่ม
ทรงเจดีย์ หรือรูปกรวยคว่ำ
(3)
ใบ ใบเดี่ยว
ออกเรียงสลับ รูปมนแกมรูปขอบขนาน ขนาด 2.5-5 x 7-11
ซม. โคนใบรูปลิ่มปลายใบแหลม
ขอบใบเป็นคลื่น เนื้อใบเป็นมันเลื่อม
คล้ายแผ่นหนังสีขาวเกลี้ยง
ใบแก่สีเขียวเข้ม (3)
ดอก ออกเป็นช่อเล็กๆ
ตามง่ามใบตอนปลายกิ่ง 4-6 ดอก
มีขนนุ่ม (3)
สี สีเขียวอมเหลือง
(3)
กลิ่น
ออกดอก
ช่วงเดือนธันวาคม -
กุมภาพันธ์ (3)
ผล รูปโล่
หรือรูปตลับ เปลือกแข็ง
มีขนนุ่มสีน้ำตาลเหลืองตามผิวผลหนาแน่น
จะแตกอ้าตามรอยประสาน
เมล็ดสีดำเป็นมันฝังอยู่ในเปลือกผล
จำนวน 2 เมล็ด ขนาด 5x10 มิลลิเมตร
(3)
ผลแก่ เป็นผลช่วงเดือนกุมภาพันธ์ -
เมษายน (3)
พบขึ้นตามป่าดงดิบแล้ง
ตามเชิงเขาบนที่ลาดไหล่เขา
ที่ใกล้ลำห้วย ลำธาร หรือบนที่ชุ่มชื้น
ระดับความสูงจาก
น้ำทะเลปานกลาง 150-800 ม. ที่ภาคกลาง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ
และภาคตะวันออกเฉียงใต้ (3)

การขยายพันธุ์และการผลิตกล้า นิยมเพาะกล้าด้วยเมล็ด
เมล็ดมีขนาดใหญ่ (3)
ปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการปลูก
ดิน
ความชื้น
แสง
การปลูกดูแลบำรุงรักษา
การคัดเลือกพื้ันที่และเตรียมพื้นที่ปลูก
-
วิธีการปลูกและระยะปลูกที่เหมาะสม
โรคและแมลง
อัตราการเจริญเติบโต
-
การเก็บรักษา
การแปรรูป
ทำเครื่องหอมและประทินโฉม
เนื้อไม้กฤษณาเมื่อถูกเชื้อราชนิดหนึ่งเข้าทำลาย
ตามบาดแผลเนื้อไม้
จะกลายเป็นสีน้ำตาลถึงดำ เรียกว่าเกิดกฤษณา
สามารถนำมากลั่นเป็นน้ำมันที่หอมใช้ทำ
เครื่องหอม เครื่องสำอางฯ
(3)

การตลาด เนื้อไม้ (น้ำหนักแห้ง) กิโลกรัมละ 185 บาท
ข้อมูลจากคุณถวัลย์
สุวรรณเตมีย์ ร้านเจ้ากรมเป๋อ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2546
(9)
การบริโภค -
การนำเข้า -
การส่งออก -

การใช้ประโยชน์ทางด้านเนื้อไม้
เนื้อไม้สีเหลืองอ่อนหรือขาวนวล
ถ้าทิ้งไว้นานจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน
เสี้ยนตรง หยาบปานกลาง
เลื่อยผ่าได้ง่าย
ชักเงาไม่ดี
ไม่ทนอยู่ในน้ำ ใช้ทำคันธนู หน้าไม้
เรือ เครื่องกลึง และแกะสลัก
(3)
การใช้ประโยชน์ทางด้านนิเวศน์
-
การใช้ประโยชน์ทางด้านภูมิสถาปัตย์
ปลูกเป็นไม้ประดับ
เพราะรูปทรงของลำต้น
เป็นรูปเจดีย์คว่ำ และไม่ผลัดใบ
คือเป็นไม้มงคล (3)
การใช้ประโยชน์ทางด้านโภชนาการ
-
การใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร
(3)
เนื้อไม้
บำรุงโลหิตในหัวใจ บำรุงตับและปอดให้เป็นปกติ
แก้ลม
แก่นไม้
บำรุงโลหิต บำรุงหัวใจ
น้ำมันจากเมล็ด
รักษาโรคผิวหนัง แก้โรคเรื้อน
แก้มะเร็ง
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
คือ ลดความดันโลหิต
อ้างอิง (1),
(3), (9)
|