
ชื่อวิทยาศาสตร์
Acacia
auriculaeformis A. Cunn. ex Benth.
ชื่อวงศ์ Leguminosae
- Mimosoideae
ชื่อสามัญ
Kra thin narong (ไทย),
Tan wattle, Darwin black wattle, Papua wattle และ Kasia
(อินโดนีเซีย)
ชื่อทางการค้า
Northern black wattle (ชื่อทางการค้าของออสเตรเลีย)
ชื่อพื้นเมือง กระถินณรงค์

เป็นไม้ขนาดเล็ก-กลาง
สูง 8-20 เมตร
เป็นไม้ผลัดใบ
เรือนยอดแผ่กว้างกิ่งก้านสาขามากมาย
ถ้าขึ้นในสภาพพื้นที่ที่เหมาะสมจะมีลำต้นเปลาตรง
เส้นผ่าศูนย์กลางถึง 80
ซม. ความสูงถึง
30 เมตร
รูปทรง (เรือนยอด)
กลม
เรือนยอดมักแตกกิ่งก้านสาขามาก
และมักแตกกิ่งที่ส่วนล่างของลำต้น
ใบ ขนาดใหญ่หนา
สีเขียวเข้ม เรียวยาว
โค้งเป็นรูปเคียว
กว้างประมาณ 1.2-2.5
ซม. ยาวประมาณ 7-15
ซม.
ดอก
ออกรวมกันเป็นช่อคล้ายหางกระรอกตามง่ามใบ
ดอกย่อยแต่ละดอกมีขนาดเล็กมาก
ช่อหนึ่งๆ มี ประมาณ 70-100 ดอก
ช่อดอกจะห้อยลงข้างล่าง
สี เหลือง
กลิ่น หอม
ออกดอก
ออกดอกเกือบตลอดปี
ผล เป็นฝักที่มีลักษณะม้วนขยุกขยิก
ฝักอ่อนมีสีเขียว
ผลแก่ จะมีสีน้ำตาลเข้มหรือดำมีเส้นใยสีเหลือง
หรือแสดยึดติดกับฝัก 

เป็นพันธุ์ไม้ต่างถิ่นของประเทศออสเตรเลีย
ปาปัวนิวกินี และอินโดนีเซีย
นำเข้ามาปลูกในประเทศไทย
เมื่อปี
2478 โดยธรรมชาติกระจายพันธุ์ในสภาพอากาศเขตร้อนชื้น
มีถิ่นกำเนิดทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย
และพบทางด้านตะวันตกและด้านใต้ของประเทศปาปัวนิวกินี
รวมทั้งบริเวณเขตแดนของประเทศอินโดนีเซียที่ติดต่อกับปาปัวนิวกินี
ส่วนในประเทศไทยจะพบปลูกขึ้นได้ทั่วทุกภาค
แต่ขึ้นได้ดีในท้องที่ภาคใต้

การขยายพันธุ์และการผลิตกล้า
การขยายพันธุ์และการผลิตกล้า
สามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศโดยการเพาะเมล็ดและแบบไม่อาศัยเพศโดยการปักชำ
การตอนและการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
แต่ส่วนใหญ่นิยมขยายพันธุ์แบบอาศัยเพศ
ปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการปลูก
ดิน
สามารถปรับตัวขึ้นได้บนดินหลายประเภทตั้งแต่ดินร่วนปนทราย
ดินเหนียว ดินลูกรัง
และดินที่มีค่าความอุดมสมบูรณ์ต่ำ
มีค่า pH
3.0-9.0 แต่ดินที่เหมาะสมที่สุด
คือ ดินร่วนปนทราย
ซึ่งมีสภาพเป็นกรดเล็กน้อย
ความชื้น
ชอบสภาพอากาศค่อนข้างชื้น-ชื้น
เจริญเติบโตได้ดี
บริเวณที่มีปริมาณน้ำฝน 1,500- 2,000
มม. และมีความสามารถปรับตัวขึ้นได้ในพื้นที่แห้งแล้ง
และพื้นที่น้ำท่วมแฉะ
แสง
ชอบแสงมาก
การปลูกดูแลบำรุงรักษา
ในปีแรกต้องคอยดูแลไม่ให้กล้าไม้ถูกวัชพืชขึ้นปกคลุมกล้าไม้
และเมื่อหมดฤดูฝน
ให้ดายวัชพืชอีกครั้งเพื่อกำจัดเชื้อเพลิง
เพราะอาจจะก่อให้เกิดไฟไหม้ได้
การคัดเลือกพื้นที่และเตรียมพื้นที่ปลูก
การเตรียมพื้นที่ปลูกควรเก็บและเผาเศษไม้
กิ่งไม้ให้หมด
ไถพรวนพื้นที่ทำให้หน้าดินร่วนซุยจะทำให้กล้าเจริญเติบโตได้ดี
วิธีการปลูกและระยะปลูกที่เหมาะสม
ให้ทำการปักหลักหรือโรยปูนขาว
ตามระยะปลูก
เพื่อความสะดวกในหารตรวจสอบอัตราการรอดตาย
เตรียมหลุมโดยการขุดให้กว้างกว่าถุงบรรจุกล้าไม้ให้มากๆ
ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์รองก้นหลุม
ถ้าสภาพดินในแปลงปลูกเป็นดินเลว
ขณะนำกล้าไม้ไปปลูกให้ฉีกถุงที่บรรจุกล้าไม้ก่อนวางกล้าไม้ในหลุม
แล้วกลบดินให้เต็มหลุมและกดดินให้แน่นพอประมาณ
ระยะปลูก
วัตถุประสงค์ถ้าต้องการปลูกเพื่อใช้ไม้ฟืนหรือเผาถ่าน
ปลูกควรระยะ 2 x 2 เมตร
แต่ถ้าปลูกเพื่อต้องการเนื้อไม้
ทำเครื่องเรือนหรือก่อสร้าง
ระยะปลูกห่างขึ้น คือ 2 x 4
เมตร หรือ 4 x 4 เมตร
โรคและแมลง ศัตรูที่เป็นอันตราย
คือ ด้วงเจาะกิ่งและลำต้น (Sinoxylon
sp) 2 ชนิด
ชนิดหนึ่งมีหนวดเป็นรูปหวี
อีกชนิดหนึ่งมีหนวดเป็นรูปตุ้มมีขนาดเล็ก
ลำตัวเป็นรูปทรงกระบอก หัวมน
ท้ายตัด ปีกหุ้มส่วนท้อง
โดยจะเข้าทำลายเจาะลำต้นที่มีอายุไม่เกิน
2 ปี นอกจากนี้ยังจะมีพวกปลวกที่ทำลายเจาะและกัดลำต้น
อัตราการเจริญเติบโต
ไม้กระถินณรงค์จัดเป็นไม้โตเร็วชนิดหนึ่ง
ภายใต้สภาวะที่เหมาะสมในช่วง 10-12
ปี จะมีความสูงถึง
15-18 ม.
และความโตทางเส้นผ่าศูนย์กลาง
15-20 ซม. ในประเทศอินโดนีเซียบริเวณพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝน
2,000 มม.
และดินมีความอุดมสมบูรณ์จะให้ผลผลิตระหว่าง
15-20 ม3/เฮกแตร์/ปี
(2.4-3.2 ม3/ไร่/ปี)
ส่วนดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำผลผลิต
8-12 ม3/เฮกแตร์/ปี (1.28-1.92 ม3/ไร่/ปี)
ในประเทศไทยได้มีการศึกษาการเจริญเติบโตและผลผลิตในท้องที่ต่างๆ
ดังแสดงไว้ในตาราง
ท้องที่
|
อายุ
(ปี)
|
ระยะปลูก
(ม.xม.)
|
การเจริญเติบโต
|
ผลผลิตมวลชีวภาพ
|
หมายเหตุ
|
ความสูง
(ม.)
|
ผศก.
(ซม.)
|
ของเนื้อไม้
(ตัน/เฮกแตร์)
|
ประจวบคีรีขันธ์
|
4
|
1.5x2
2x4
|
10.45
11.85
|
7.6
9.5
|
54.61
(8.74)
48.76
(7.80)
|
ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,500 มม/ปี
ชนิดดินร่วนปนทราย pH
4.5-5.0
|
|
|
|
|
|
|
|
นครราชสีมา
|
4
|
2x2
|
8.71
|
6.99
|
43.91
(7.03)
|
ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย
1,200
มม/ปี ชนิดดิน Red and yellow Podzolic
pH 5-6
|
|
|
|
|
|
|
|
ศรีสะเกษ
|
4
|
2x4
|
10.27
|
9.59
|
41.36
(6.62)
|
ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย
|
|
|
4x4
|
11.41
|
11.78
|
34.92
(5.59)
|
1,300 มม/ปี
ชนิดดินร่วน
|
|
|
4x6
|
12.71
|
14.73
|
46.95
(7.51)
|
ปนทราย
pH 5.3
|
|
|
6x6
|
12.42
|
13.69
|
28.30
(4.53)
|
|
|
|
|
|
|
|
|
หมายเหตุ ผลผลิตมวลชีวภาพเป็นน้ำหนักแห้งคิดเป็นประมาณ
60%
ของน้ำหนักสด ตัวเลขใน (
) เป็นตัน/ไร่
การเก็บรักษา
-
การแปรรูป -

การตลาด ปัจจุบันในประเทศไทยได้มีเอกชนเริ่มให้ความสนใจในการปลูกไม้สกุล
Acacia (ไม้กระถินณรงค์ กระถินเทพา
อะคาเซีย คลาสซิคาร์ป้า และอะคาเซีย
ออลาโคคาร์ป้า)
เนื่องจากมีโรงงาน 1-2
แห่งรับซื้อในราคา 800-850 บาท/ตัน
ซึ่งเป็นราคาไม่แตกต่างจากราคาไม้ยูคาลิปตัส
เพื่อนำไปป้อนโรงงานชิ้นไม้สับใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเยื่อกระดาษ
ปาร์ติเกิลบอร์ดและไฟเบอร์บอร์ดภายในประเทศ
และส่งออกไปยังต่างประเทศ
โดยโรงงานที่ผลิตชิ้นไม้สับสกุล
Acacia ควบคู่กับไม้ยูคาลิปตัส คือ บริษัทสยามทรีดีเวลลอปเมนท์
จำกัด
ในต่างประเทศ
ประเทศอินโดนีเซีย
มาเลเซียและเวียดนามได้มีการเร่งขยายปลูกพันธุ์ไม้สกุล
Acacia
เป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซียได้วางเป้าหมายที่จะปลูกไม้สกุลนี้ตามเงื่อนไขสัมปทานให้ได้ถึง
1,159,000 เฮกแตร์หรือประมาณ 7.24
ล้านไร่
เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษเป็นหลัก
การบริโภค การบริโภคไม้สกุลนี้ภายในประเทศไทยมีน้อยมาก
เนื่องจากความต้องการบริโภคและพื้นที่ปลูกยังมีจำนวนจำกัด
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในอาเซียนดังกล่าวข้างต้น
การนำเข้า -
การส่งออก -

การใช้ประโยชน์ทางด้านเนื้อไม้
มีสีสวย
กระพี้มีสีเหลือง
แก่นไม้ออกสีน้ำตาลจนถึงแดงเข้มและทนทาน โดยมีค่าความแข็งของเนื้อไม้สูงกว่า
500 กก.
ส่วนเสี้ยนของเนื้อไม้
ตรงและละเอียดขัดชักเงาได้ดี
เหมาะสำหรับใช้ประโยชน์ในการก่อสร้าง
ทำเครื่องเรือน
เฟอร์นิเจอร์และไม้ปาร์เก้
นอกจากนี้ยังใช้ในอุตสาหกรรมผลผลิตเยื่อกระดาษ
ซึ่งไม้ชนิดนี้ให้ผลผลิตเยื่อสูงถึงประมาณ
50% และใช้ทำฟืนและถ่านได้เป็นอย่างดี
ให้ค่าความร้อนสูง 4,800-4,900
Kcal/kg ส่วนเปลือกให้น้ำฝาดแทนนินใช้ในอุตสาหกรรมการฟอกหนังสัตว์
และให้สีธรรมชาติในอุตสาหกรรมผ้าปาติกในอินโดนีเซีย
การใช้ประโยชน์ทางด้านนิเวศน์ ใช้ปลูกเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ดินที่มีสภาพเสื่อมโทรมภายหลังจากการทำไร่เลื่อนลอย ปลูกฟื้นฟูดินที่ผ่านการทำเหมืองแร่
และปลูกเพื่อป้องกันการชะล้างผิวหน้าดิน
การใช้ประโยชน์ทางด้านภูมิสถาปัตย์
กระถินณรงค์เป็นพันธุ์ไม้ที่มีรูปทรงพุ่มกลม
พุ่มใบแน่น มีดอกสีเหลืองสดออกหมุนเวียนตลอดปี
มีกลิ่นหอมตอนเช้า
ปลูกง่าย โตเร็ว ทนแล้ง
และทนน้ำท่วมขังแฉะ
จึงนิยมใช้ปลูกเป็นไม้ให้ร่มเงา
ให้ความสวยงามตามที่สาธารณะหรือตามถนนหนทางหรือตามชายหาดทะเล
การใช้ประโยชน์ทางด้านโภชนาการ
พันธุ์ไม้กระถินณรงค์ไม่สามารถใช้เป็นพืชอาหารได้
แต่สวนป่าไม้กระถินณรงค์จะเป็นแหล่งอาหารการเกิดของเห็ดชนิดหนึ่งที่คล้ายกับเห็ดเสม็ดซึ่งสามารถเก็บมารับประทานเป็นอาหารได้
การใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร
-

|