ประวัติความเป็นมา
           สถานีวิจัยสัตว์ป่าป่าพรุ-ป่าฮาลาบาลาจัดตั้งขึ้นตามแผนดำเนินงาน 5 ปี ( 2535-2540) ของฝ่ายวิชาการ กองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้เป็นพื้นที่ศึกษาวิเคราะห์วิจัยค้นคว้าและทดลองด้านวิชาการสัตว์ป่า ในระบบนิเวศน์ของป่าพรุและป่าดงดิบชื้นภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2539 มีพื้นที่ประมาณ 65 ไร่ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ท้องที่ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส

ที่ตั้งสำนักงาน
            เนื้อที่ประมาณ 65 ไร่ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ท้องที่ หมู่ที่ 5 ตำบลโละจูด
อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส พิกัด UTM 47 N 0814042 06415550
 
วัตถุประสงค์
          1. ศึกษาวิจัยชนิด ประชากร ถิ่นอาศัยและสิ่งแวดล้อมของสัตว์ป่าทั้งในระดับพื้นฐานและระดับประยุกต์
ในระบบนิเวศน์ป่าพรุและระบบนิเวศน์ป่าดงดิบชื้น
          2. บริการ ช่วยเหลือ สนับสนุน และอำนวยความสะดวกแก่นักวิจัยที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำการ
ศึกษาวิจัย ด้านป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่
         3. เป็นแหล่งรวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลงานวิจัย และสารสนเทศด้านสัตว์ป่าในป่า
อนุรักษ์ภาคใต้ตอนล่าง
         4. เป็นสถานที่เผยแพร่ความรู้ด้านงานวิชาการสัตว์ป่าแก่นักเรียน นักศึกษา และ ประชาชนในท้องถิ่น
 
อัตรากำลัง

         ข้าราชการ ตำแหน่ง นักวิทยาศาสตร์ 8ว. จำนวน 1 คน
         พนักงานราชการทั่วไป กลุ่มงานบริการ ตำแหน่ง คนงาน จำนวน 12 คน

 
ลักษณะภูมิประเทศ
         ป่าฮาลา-บาลา เป็นป่าดิบชื้นบริเวณเทือกเขาสันการาคีรี ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เป็นแหล่งกำเนิดสำคัญของแม่น้ำ 3 สายคือ แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำสุไหงโก-ลก ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเขาสูงชัน สลับกับป่าที่ราบ ป่าบาราอยู่ในจังหวัดนราธิวาส มีเนื้อที่ประมาณ 105,725 ไร่ (คำว่า บาลา แปลว่า ที่ราบ, โรงพัก, ที่สอนหนังสือ) ส่วนป่าฮาลาอยู่ในจังหวัดยะลา (คำว่า ฮาลา หมายถึง ผู้ถูกเนรเทศ หรือผู้ถูกอพยพ) มีเนื้อที่ประมาณ 165,000 ไร่ ได้มีพระราชกฤษฎีกาประกาศกำหนดให้พื้นที่ป่าทั้ง 2 แห่งนี้ ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2539 เนื้อที่ประมาณ 2700,725 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ ตำบลแว้ง ตำบลโละจูด  อำเภอแว้ง ตำบลมะโมง ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส และตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา

ลักษณะภูมิอากาศ
            พื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยอยู่ในเขตมรสุมมีฝนตกชุกและกระจายอยู่ตลอดทั้งปี มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,098 มิลลิเมตร และอุณหภูมิเฉลี่ย 28.0 องศาเซลเซียส
 
ชนิดป่าและพรรณไม้
           สภาพพื้นที่ที่ประกอบด้วยป่าดงดิบที่มีระดับความสูง 50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และป่าดงดิบที่ระดับความสูงถึง 1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จึงมีความหลากหลายของสังคมพืช บริเวณที่เป็นภูเขาสูงมีไม้สยา (Shorea sp.) เป็นไม้เด่น รองลงมาเป็นพรรณไม้ในวงศ์มะเกลือ (Ebenaceae) วงศ์ไม้อบเชย (Laruaceae) และวงศ์ไม้มะม่วงป่า (Anacardiaceae) ไม้ชั้นกลางเป็นพวกปาล์มและหวาย ส่วนไม้พื้นล่างเป็นพวกว่าน และพันธุ์ไม้ในวงศ์ขิงข่า (Zingiberaceae)
          1. พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ตะเคียนชันตาแมว สยา กุหลิม หลุมพอ ขนุนป่า ศรียะลา ประ ทุเรียนป่า
          2. ไม้ประดับที่มีค่าทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ปาล์ม บังสูรย์ ใบไม้สีทอง เฟริ์นยักษ์ จากเขา และหวายชนิดต่างๆ
เช่น หวายข้อดำ หวายแดง หวายข้าวสาร เป็นต้น
          3. พืชสมุนไพร ได้แก่ บัวสวรรค์ (บัวหิมะหรือบัวพันปี) พญานาคราช พญารากเดียว (พญาว่าน) พระเจ้าห้าพระองค์ (ม้ากระทืบโรง) กระเช้าผีมด (พญาร้อยรู) ฤษีนางครวญ ตะไคร้ต้น กระเพราต้น สุรามีฤกษ์ ขมิ้นต้น นมราชสีห์ ปลาไหลเผือก หญ้าท้าวเอว ต้นแมงดา พญาเสือโคร่ง และโสมพันปี (โสมป่า)

 
การเดินทาง
         ทางรถยนต์เดินทางจากหาดใหญ่ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43 หาดใหญ่-โคกโพธิ์ และทางหลวงแผ่นดิน 42 จนถึงจังหวัดนราธิวาส จากจังหวัดนราธิวาสเดินทางไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4055 และ 4056 ถึงอำเภอสุไหงโก-ลก แยกเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4057 ผ่านอำเภอแว้ง ไปจนถึงหมู่บ้านบูเก๊ะตา ก่อนถึงเขตแดนจะเห็นป้ายบอกทางไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบาลา-ฮาลา และน้ำตกสิรินธร เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4062 จะผ่านที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลาเดินทางต่อไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จึงถึงสถานีวิจัยสัตว์ป่าป่าพรุ-ป่าฮาลา-บาลาทางรถไฟ เดินทางจากกรุงเทพฯถึงสถานีสุไหงโก-ลก เดินทางไปตามทางหลวงจังหวัด หมายเลข 4062 หมายเลข 4057 ถึงบ้านบูเก๊ะตา ผ่านอำเภอแว้ง แล้วเดินทางไปตามทางหลวงจังหวัด หมายเลข 4062 ถึงสถานีวิจัยสัตว์ป่าป่าพรุ-ป่าฮาลา-บาลา
 
สถานที่ติดต่อ
         สถานีวิจัยสัตว์ป่าป่าพรุ-ป่าฮาลา-บาลา   ตู้ ปณ. 6 อำเภอแว้ง  จังหวัดนราธิวาส