จากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้ทรงมีพระราชดำริกับพลโทศิริ
ทิวะพันธ์ แม่ทัพภาคที่3 ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เมื่อในที่ 24 มกราคม 2532
ให้พัฒนาชาวเขาและผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
ในพื้นที่จังหวัดน่าน
คณะเจ้าหน้าที่จากสำนักเลขานุการกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ(กปร.)
และผู้แทนกรมชลประทาน กรมป่าไม้
กรมพัฒนาที่ดินและกองทัพภาคที่3
ได้เดินทางไปสำรวจสภาพปัญหาต่างๆของราษฎรหมู่บ้านชาวเขา
ในวันที่ 20-21 เมษายน 2532
และได้สรุปแนวทางแก้ไขปัญหาโดยกำหนดให้การพัฒนาแหล่งน้ำเป็นความเร่งด่วนลำดับแรก
และเป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ต่อมากองทัพภาคที่ 3
ได้แต่งตั้งคณะทำงานโครงการพัฒนาลุ่มน้ำน่านอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานคณะทำงาน ตามคำสั่ง
ทภ.3/กอ.รมน.ภาค3 และคณะกรรมการ ชมพู.ทภ.3 ที่ 242/2532
ลงวันที่ 30 มิถุนายน2532
ซึ่งการดำเนินการเพื่อสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ในการพัฒนาดังกล่าว
มีความก้าวหน้าในระดับหนึ่งประกอบกับพื้นที่ดำเนินการยังมีปัญหาในเรื่องผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์แนวใหม่
ซึ่งจำเป็นต้องเร่งพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม กองทัพภาคที่3
จึงได้มอบหมายให้กองพลพัฒนาที่ 3
เป็นหน่วยรับผิดชอบในการสำรวจข้อมูล โดยประสานงานกับ กกร.กอ.รมน.ภาค
3 และหน่วยงานในพื้นที่จัดตั้งกองอำนวยการโครงการฯ
ดำเนินการสำรวจพื้นที่หมู่บ้านซึ่งในอดีตเคยเป็นฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์และเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์
ราษฎรส่วนใหญ่จะทำไร่แบบเลื่อนลอย
เป็นการทำลายทรัพยากรป่าไม้
ทำให้ต้นกำเนิดของแม่น้ำน่านถูกทำลายประกอบกับมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ
สังคมและการเมือง
ในปัจจุบันได้รับการจัดตั้งเป็นหมู่บ้านผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผทร.)
และหมู่บ้านป้องกันชายแดน(ปชด.)ที่ควรไดรับการพัฒนามีจำนวน
21 หมู่บ้านซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวเขาเผ่าม้งและเผาถิ่น(ลั๊วะ)
อยู่ในพื้นที่ของอำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข อำเภอแม่จริม
อำเภอปัว อำเภอสองแคว อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน
คณะทำงานได้พิจารณาแผนงานและแผนหลักโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงลุ่มแม่น้ำน่านฯ
มีความเห็นให้ปรับแนวทางการดำเนินการพัฒนาในหมู่บ้านเป้าหมายให้เป็นหมู่บ้านป่าไม้จำนวน
7 กลุ่มหมู่บ้าน
โดยเริ่มดำเนินการในปี
พ.ศ. 2535 จำนวน 3 กลุ่มหมู่บ้าน คือ
- กลุ่มบ้านน้ำรีพัฒนา
-
กลุ่มบ้านแม่สะนาน
-
กลุ่มบ้านร่มเกล้า
ในปี พ.ศ. 2536 จำนวน 4
กลุ่มหมู่บ้าน
- กลุ่มบ้านน้ำตวง
- กลุ่มบ้านปางแก
- กลุ่มบ้านมณีพฤกษ์
- กลุ่มบ้านปางช้าง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2538
ได้จัดตั้งเพิ่มอีก 1 กลุ่มหมู่บ้านคือ 8.
กลุ่มบ้านห้วยกานต์
และในปี พ.ศ. 2539
ได้จัดตั้งเพิ่มอีก
2
กลุ่มหมู่บ้าน 9. กลุ่มบ้านสบมาง-นาบง
10.กลุ่มบ้านถ้ำเวียงแก
ซึ่งวัตถุประสงค์ในการพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-ลาว
และพื้นที่ทีมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ให้มีความมั่นคงตลอดไป
ให้ราษฎรมีที่อยู่อาศัยและทำกินเป็นหลักแหล่ง
ถูกต้องตามกฎหมาย มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม
มีคุณภาพ ชีวิตที่ดีขึ้น
สามารถช่วยเหลือตนเองได้และที่สำคัญที่สุด
เพื่อเป็นการสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ฯ
ที่ทรงห่วงใยในความเป็นอยู่ของราษฎรที่เป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยและราษฎรบริเวณแนวชายแดน
การดำเนินการตามโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน
อันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดน่าน
ได้กำหนดระยะเวลาดำเนินการ ขั้นแรกจำนวน 5 ปี (พ.ศ.
2535-2539) และขั้นที่สอง จำนวน 5 ปี (พ.ศ.2540-2544)
และกำหนดแผนงานพื้นฐานที่จะดำเนินงาน รวม 7 แผนงาน คือ
1.
แผนงานจัดตั้งกองอำนวยการโครงการฯ
2.
แผนงานการจัดตั้งถิ่นฐาน
การเมืองและการปกครองโดยจัดที่ดินอยู่อาศัยทำกินให้เป็นหลักแหล่งถาวรและเป็นหมู่บ้านที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่
พ.ศ.2457
3.
แผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
โดยหาจัดหาแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และการเกษตร
และจัดสร้างเส้นทางคมนาคม
4.
แผนงานด้านการเกษตรและอาชีพ
โดยส่งเสริมการปลูกพืชไม้ผล เลี้ยงสัตว์ ประมงรวมถึง
อุตสาหกรรมในครัวเรือน
5.
แผนงานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และยกระดับคุณภาพชีวิต
โดยจัดให้การศึกษาขั้นแรกให้สามารถอ่าน พูด เขียน
และฟังภาษาไทยได้เน้นการคุมกำเนิด ส่งเสริมพุทธศาสนา
ถ่ายทอดวัฒนธรรมประจำชาติ เพื่อให้มีความสำนึก
และภูมิใจในความเป็นคนไทย
6.
แผนงานป่าไม้
โดยสร้างจิตสำนึกให้เห็นคุณค่าของป่าไม้
ให้มีส่วนร่วมในการปลูกและดูแลรักษาป่า
7.
แผนงานรักษาความมั่นคงและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ
สามารถช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่เป้าหมายได้จำนวน 1,736
ครอบครัว ประชากร 13,685 คน ให้มีที่ดินอยู่อาศัยและทำกิน
เป็นหลักแหล่ง
โดยมีความรู้ด้านการเกษตรแผนใหม่สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้
มีการใช้และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม
ละสามารถสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้แก่พื้นที่บริเวณตามแนวชายแดนได้อย่างถาวรตลอดไป
|