ความเสื่อมโทรมของแนวปะการัง |
|
1. ความเสื่อมโทรมของแนวปะการัง จากสาเหตุทางธรรมชาติ | |
- ถูกทำลายโดยลมพายุ เกิดคลื่นรุนแรงทำให้กิ่งก้านของปะการังแตกหักทำลายลง | |
- ถูกสัตว์ทะเลบางชนิดกัดกินเป็นอาหาร เช่น ปลานกแก้วที่กัดกินโครงแข็งของปะการัง ปลาผีเสื้อและสัตว์บางชนิดที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง พวกฟองน้ำ หนอนหอยที่เจาะไชปะการังให้เป็นโพรงสำหรับเข้าไปอยู่อาศัย | |
![]() ![]() ![]() |
|
- สัตว์ทะเลบางชนิดกัดกินเนื้อเยื่อของปะการัง เช่น ปลาดาวหนาม หรือหอยประเภทฝาเดียวเป็นต้น | |
แต่ความเสื่อมโทรมของแนวปะการังที่เกิดโดยกระบวนการทางธรรมชาตินั้นไม่สร้างความเสียหายร้ายแรง เพราะปะการังสามารถฟื้นฟูตัวมันเองได้ทันกับการถูกทำลาย | |
2. ความเสื่อมโทรมของปะการังที่มีสาเหตุจากการกระทำของมนุษย์ | |
- การเก็บปะการังเป็นของที่ระลึก ทุกกิ่งก้านและทุกกลุ่มของปะการังที่ถูกเก็บเป็นที่ระลึกนั้นอาจต้องใช้เวลาสร้างขึ้นมานานนับ 100 ปี | |
- การทิ้งสมอเรือและการถอนสมอในแนวปะการังที่รุนแรงที่สุดเพราะสมอเรือลงไปกระแทกและครูดแนวปะการังทำลายปะการังให้แตกหักเป็นแนวยาว | |
- การปล่อยน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมและน้ำทิ้งจากชุมชนลงทะเล ทำให้ปะการังตายเพราะปะการังมีชีวิตอยู่ได้ในบริเวณน้ำทะเลที่ใสและมีแสงแดดส่องถึงเท่านั้น | |
- การก่อสร้างบริเวณชายหาด เช่นการก่อสร้างอาคาร การเปิดหน้าดินเพื่อสร้างถนน ทำให้ตะกอนของดินไหลลงสู่ทะเลทำให้น้ำทะเลขุ่นข้นเช่นเดียวกับการทำเหมืองแร่ในทะเลที่ปล่อยน้ำทิ้งจากการดูดแร่ความขุ่นข้นของน้ำและตะกอนที่ตกทับถมบนแนวปะการังทำให้ปะการังตาย | |
- การระเบิดปลา เป็นการทำลายปะการังที่รุนแรงเช่นเดียวกับการทอดสมอเรือเพราะการระเบิดปลาในแนวปะการังทำให้ปะการังแตกแหลกละเอียดไปในเวลาชั่วพริบตา | |
- การทิ้งขยะลงสู่ท้องทะเลโดยไม่ระมัดระวัง มีทั้งขวดแก้ว กระป๋อง ถุงพลาสติก ลงไปทำลายแนวปะการังอยู่ตลอดเวลา | |
![]() ![]() ![]() |
|