ประวัติความเป็นมา
ในปี พ.ศ. 2529 สำนักผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือเชิญชวนกรมป่าไม้ให้เสนอข้อคิดเห็นในการวางและจัดทำผังเมืองรวม
เมืองชุมพร กรมป่าไม้ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ในพื้นที่บริเวณจังหวัดชุมพรน่าจะได้มีการสำรวจเพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่ง
ให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองเพรา จังหวัดชุมพร ไปดำเนินการสำรวจซึ่งผลปรากฏว่า บริเวณชายหาด อ่าว และเกาะต่างๆ
บริเวณจังหวัดชุมพร มีความสวยงามและอุดมไปด้วยทรัพยากรทางทะเล เห็นสมควรประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ต่อมากรมป่าไม้ได้สั่งการ
ให้เจ้าหน้าที่กองอุทยานแห่งชาติไปดำเนินการสำรวจเพิ่มเติมและเตรียมการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติในการประชุมครั้งที่ 1/2540 วันที่ 28 มกราคม 2540 และผ่านการตรวจสอบความถูกต้องจาก
สำนักคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ปัจจุบันได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 116
ตอนที่ 9ก เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2542 พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าชายเลนอ่าวทุ่งคาและอ่าวสวี และเกาะต่างๆ ในท้องที่ตำบลสะพลี
อำเภอปะทิว ตำบลปากน้ำ ตำบลหาดทรายรี ตำบลทุ่งคา ตำบลพิสัยเหนือ อำเภอเมืองชุมพร ตำบลพิสัยใต้ ตำบลด่านสวี ตำบลท่าหิน อำเภอสวี
ตำบลปากน้ำตะโก อำเภอทุ่งตะโก และตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เนื้อที่ประมาณ 317 ตารางกิโลเมตร หรือ 198,125 ไร่
โดยมีพื้นที่น้ำประมาณ 165,969 ไร่ คิดเป็น 80.5 % ของพื้นที่ทั้งหมด
ที่ตั้งและอาณาเขต
อุทยานแห่งชาติหาดทรายรี ตั้งอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 10 องศา 02 ลิปดา 18 พิลิปดา - 10 องศา 34 ลิปดา 05 พิลิปดา เหนือ
และระหว่างเส้นแวงที่ 99 องศา 07 ลิบดา 42 พิลิปดา - 99 องศา 25 ลิปดา 45 พิลิปดา ตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ
อำเภอปะทิว อำเภอเมือง อำเภอทุ่งตะโก อำเภอสวี และอำเภอหลังส่วน จังหวัดชุมพร มีอาณาเขตดังนี้
ทิศเหนือ | จดเกาะจระเข้ ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร |
ทิศใต้ | จดบ้านท้องครก อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร |
ทิศตะวันออก | จดทะเลอ่าวไทย |
ทิศตะวันตก | จดอ่าวทุ่งคา อำเภอเมือง และอ่าวสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร |
การคมนาคม
การเดินสู่จังหวัดชุมพรซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ โดยทางรถยนต์ 520 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง
เดินทางตามทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) เมื่อถึงสี่แยกปฐมพร เลี้ยวซ้ายประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภอเมืองชุมพร
แล้วใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4001 ระหว่างอำเภอเมืองชุมพรกับปากน้ำชุมพร ก่อนถึงปากน้ำชุมพรเลี้ยวขวาตรง
ทางแยกไปหาดทรายรี เมื่อเลี้ยวขวาเข้ามาอีกประมาณ 15 เมตร จะพบทางแยกให้เลี้ยวขวาอีกครั้ง ไปตามถนนอีกประมาณ 8 กิโลเมตร
ก็จะพบป้ายทางเข้าอุทยานแห่งชาติ เลี้ยวขวาสู่ทางเข้าไปตามถนนดินอีก 1 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดทรายรี
ทรัพยากรธรรมชาติ
ลักษณะภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เป็นพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนกลางด้านตะวันตก
ประกอบด้วยพื้นน้ำ ชายหาด อ่าว ป่าชายเลน ภูเขา และเกาะน้อยใหญ่ทั้งสิ้น 41 เกาะ ขอบเขตอุทยานแห่งชาติเริ่มจากเกาะจระเข้
ในเขตอำเภอปะทิว เรื่อยมาถึงบริเวณเกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เกาะเสม็ด ต่อกับเกาะมะพร้าว เกาะมาตรา เกาะทองหลาง เกาะรังกาจิว
บริเวณหาดทรายรีและอ่าวทุ่งคา อำเภอเมืองชุมพร และหมู่เกาะน้อยใหญ่บริเวณชายฝั่งอ่าวสวี อำเภอสวี จนถึงเกาะพิทักษ์ อ่าวท้องครก
ในเขตอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
1. พืชพรรณ สังคมพืชในเขตอุทยานแห่งชาติหาดทรายรีสามารถจำแนกออกได้เป็น
1.1 ป่าชายเลน เป็นสังคมพืชไม่ผลัดใบที่ขึ้นอยู่ตามชายฝั่งทะเล หรือปากแม่น้ำที่มีน้ำทะเลท่วมถึง ดินเป็นเลนละเอียดนุ่ม
อุดมด้วยอินทรีย์วัตถุ พบตามชายฝั่งลึกเข้าไปประมาณ 200 เมตร ของบริเวณอ่าวทุ่งคา และอ่าวสวี พื้นที่รวมประมาณ 48 ตารางกิโลเมตร
สภาพป่ายังคงสภาพความสมบูรณ์ พรรณไม้สำคัญที่ถือเป็นไม้เด่นได้แก่ โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก แสมขาว แสมดำ ลำแพน ลำพู ตะบูนขาว
ตาตุ่มทะเล โปรงแดง โปรงขาว พืชพื้นล่างได้แก่ จาก เหงือกปลาหมอดอกขาว เหงือกปลาหมอดอกม่วง ถอบแถบน้ำ ปรงทะเล เตย เล็บมือนาง
สำมะงา เป้งทะเล เป็นต้น
|  |
1.2 ป่าชายหาด เป็นสังคมพืชบริเวณชายทะเลที่มีดินเป็นดินทรายมีความเค็ม อากาศมีไอเค็มสูง ป่าชายหาดมักปรากฏบริเวณหาดทราย
ตามแนวชายฝั่งของแผ่นดินและเกาะที่คลื่นพัดขึ้นมาท่วมไม่ถึง และคลุมลึกเข้าไปบนแผ่นดินในระยะที่ระดับไอเค็มในอากาศและความเค็มของดิน
พอเพียง พื้นที่ประมาณ .6 ตารางกิโลเมตร พรรณพืชในป่าชายหาดจัดเป็นพืชทนเค็ม พรรณไม้ในป่าประเภทนี้มักมีลักษณะเป็นพุ่ม ลำต้นคดงอ
แตกกิ่งก้านมาก กิ่งสั้น ใบหนาแข็ง มีพืชที่มีหนามทั้งไม้พุ่มและไม้เถาปะปนอยู่มาก พรรณไม้ที่พบได้ทั่วไปได้แก่ สนทะเล กระทิง โพทะเล จิกทะเล
ยอป่า หูกวาง สะแก พืชพื้นล่างได้แก่ เตยทะเล สลัดใด หนามเค็ด เป็นต้น
1.3 สังคมพืชบนหน้าผาหินปูน เป็นสังคมพืชที่มีลักษณะพิเศษ พบบริเวณเทือกเขาและหน้าผาหินปูนพรรณพืชมักมีขนาดเล็ก
และเจริญเติบโตช้า จัดเป็นพืชที่ทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี พรรณไม้ที่พบได้แก่ หวาย เป้ง ไผ่รวก สบู่เลือด จันทน์ผา จันทน์แดง โพเขา
ไทร มันหมู ตับเต่า ขาไก่ และเถาวัลย์ชนิดต่างๆ เป็นต้น
1.4 ป่าดงดิบ เป็นสังคมพืชไม่ผลัดใบ พื้นป่ามักรกทึบด้วยไม้พื้นล่างและลูกไม้มักพบในบริเวณที่มีฝนตกชุกและสม่ำเสมอ
เกือบตลอดปี พบทั้งบนแผ่นดินและบนเกาะประมาณ 4.8 ตารางกิโลเมตร พรรณไม้ที่สำคัญได้แก่ ตะเคียน ตะแบก จำปา นนทรี เคี่ยม มังตาล
ยูง กะบาก ไข่เขียว บุนนาค ตาเสือ และหวายต่างๆ
2. สัตว์ป่า ในเขตพื้นที่ป่าของอุทยานแห่งชาติหาดทรายรี มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก สามารถพบเห็นได้ในหลายพื้นที่
ทั้งในป่าชายเลน ป่าชายหาด และเกาะ สัตว์ที่สามารถพบเห็นได้แก่
2.1 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประกอบด้วย ลิงแสม กระรอกหลากสี หนู ค้างคาวแม่ไก่เกาะ ค้างคาวกินแมลง เป็นต้น
2.2 นก ประกอบด้วย นกยางทะเล นกยางเปีย นกยางกรอก นกยางเขียว นกปากซ่อมหางพัด นกอีก๋อยเล็ก นกกระเต็นน้อยธรรมดา
นกอัญชันอกเทา นกกวัก นกชายเลนปากแอน นกนางนวลแกลบท้ายทอยดำ นกกะปูดใหญ่ นกตบยุงหางยาว นกออก นกแอ่นกินรัง เป็นต้น
2.3 สัตว์เลื้อยคลาน ประกอบด้วย งูเหลือม เหี้ย และตะกวด เป็นต้น
3. ทรัพยากรทางทะเล พื้นที่รอบหมู่เกาะในเขตอุทยานแห่งชาติหาดทรายรี เป็นแนวปะการังและกองหินใต้น้ำที่มีสิ่งมีชีวิตทางทะเล
อุดมสมบูรณ์ แนวปะการังในอุทยานแห่งชาติหาดทรายรีพบมากตามเกาะต่างๆ เป็นแนวปะการังแบบแนวปะการังชายฝั่ง (Fringing reefs)
ซึ่งเป็นรูปแบบของแนวปะการังที่พบทั่วไปในประเทศไทยแนวปะการังอาจจำแนกได้เป็น 2 ส่วน ตามระดับความลึก ดังนี้
3.1 แนวปะการังน้ำตื้น พบในบริเวณเกาะมาตรา เกาะทองหลาง เกาะกุลา เกาะละวะ เกาะรังกาจิว หินหลักอีแรด เป็นต้น
เหมาะสำหรับการดำน้ำแบบการดำน้ำตื้น
3.2 แนวปะการังน้ำลึก พบในบริเวณ เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย
เกาะหลักง่าม แล ะเกาะทะลุ เป็นต้น เหมาะสำหรับการดำน้ำ
แบบการดำน้ำลึก
3.3 สิ่งมีชีวิตที่พบใต้ท้องทะเล ได้แก่ ปะการังแข็ง ปะการังอ่อน ปะการังดำ ถ้วยทะเล ฟองน้ำครก ดอกไม้ทะเล แมงกระพรุน
ปลาในแนวปะการังเช่น ปลาการ์ตูน ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลาสลิดหินสีฟ้า ปลาตาโต หอยชนิดต่างๆ เช่น หอยหน้ายักษ์ หอยเบี้ยเสือดาว
หอยมือเสือ หอยแมงป่อง เป็นต้น สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ เช่น ฉลามวาฬ ปลากระเบนราหู เต่าตะรุ วาฬบรูด้า โลมาเผือก โลมากระโดด เป็นต้น
3.4 สัตว์น้ำที่พบในป่าชายเลน ได้แก่ ปลาตีน ปลาบู่ ปลากะพงแสม ปลาดุกทะเล ปลากระตักขาว ปลากะพงขาว ปลากะรังปากแม่น้ำ
ปลากระบอก กุ้งแชบ๊วย กุ้งกุลาดำ กุ้งหัวมัน กุ้งตะเข็บ ปูแสม ปูก้ามดาบ ปูทะเล หอยกะทิ หอยขี้นก หอยนางรม เป็นต้น
การท่องเที่ยว
1. แหล่งท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติหาดทรายรี มีจุดเด่นที่น่าสนใจทั้งในเรื่องของระบบนิเวศป่าชายหาด ป่าชายเลน
พื้นที่ชุมน้ำที่อุดมด้วยนกนานาชนิด และแนวปะการังที่สมบูรณ์และสวยงามตามเกาะและกองหินต่างๆ นับเป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง
ในอ่าวไทย มีถ้ำทะเลขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ บางแห่งมีความยาวมากกว่า 15 เมตร และกว้างมากกว่า 10 เมตร ภายในพบฟองน้ำและปะการัง
ดอกไม้มากมาย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งปะการังดำ ปะการังอ่อน และถ้วยทะเล และสามารถพบฉลามวาฬบริเวณน้ำลึก ได้บ่อยครั้งมากที่สุด
แห่งหนึ่งในประเทศไทย เป็นจุดสำรวจหอยที่น่าสนใจ มีปริมาณปลาและความหลากหลายมาก
2. สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติชั่วคราว ป้ายสื่อความหมาย และสถานที่กางเต็นท์ที่เกาะทองหลางและเกาะกุลา
ในการประกอบกิจกรรมนันทนาการในเขตอุทยานแห่งชาติไม่ว่าจะเป็น การเล่นน้ำ การนั่งเรือชมทิวทัศน์ ชมถ้ำ การดำผิวน้ำ
ดูปะการัง การพักแรมค้างคืน การก่อไฟ ให้กระทำได้เฉพาะในเขตหรือบริเวณที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้เท่านั้น ไม่ควรกระทำหรือ
ส่งเสียงอื้อฉาวรบกวนคนหรือสัตว์ ไม่เดินออกนอกเส้นทางถาวร ไม่สัมผัสหรือจับต้องภาพเขียนสีและหินงอกหินย้อย ตลอดจนป
ฏิบัติตนตามที่เจ้าหน้าที่กำหนด หรือตามที่เจ้าหน้าที่ได้ทำเครื่องหมายไว้ สำหรับผู้ที่ไปกางเต็นท์พักแรมจะต้อง เตรียมเครื่องนอน
และอุปกรณ์ในการพักแรมไปเอง และต้องเก็บและทำความสะอาดที่พักให้เรียบร้อยเมื่อเลิกใช้แล้ว การก่อไฟ จะต้องไม่เก็บหรือ
ตัดกิ่งไม้ยืนต้นมาใช้และต้องระมัดระวังมิให้ไฟลุกลามไปยังที่อื่น ต้องดับไฟให้สนิททุกครั้งที่เลิกใช้ และสำหรับผู้ที่พิศมัยในการดำน้ำ
ดูปะการังจะต้องเตรียมอุปกรณ์ไปเอง หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่ ส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเล
สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. (02) 5612918-21
|