เส้นทางศึกษาธรรมชาติถ้ำเขานุ้ย 2
 
 

ถ้ำเขานุ้ย

     ถ้ำแห่งนี้ชาวบ้านเรียกว่า "ถ้ำเขานุ้ย" ภายในถ้ำมีทางน้ำไหลผ่านเป็นอุโมงค์ยาวประมาณ 30 เมตร มีหินงอกหินย้อย ซึ่งเกอดจากการละลายมาจับตัวกันของหินปูน

     เนื่องจากโครงสร้างภูเขาแห่งนี้เป็นภูเขาหินปูน ซึ่งกำลังผุกร่อน ละลาย ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะมีช่องว่างเหนือเพดานถ้ำ ประกอบกับภูเขาแห่งนี้เคยผ่านการระเบิดหินมาก่อน ทำให้มีรอยร้าวโดยทั่วไป

   
ชีวิตในความมืดของค้างคาว

  "ค้า่งคาว" เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่บินได้ ปีกของมันคือผังผืดบาง ๆ อยู่ระหว่างนิ้วของมัน (ค้างคาวไม่ใช่นกอย่างที่หลายคนเข้าใจ)

     ค้่างคาว ได้ขึ้นชื่อว่ากลัวแสง เพราะการออกหากินตอนกลางคืนของพวกมันนั่นเอง ส่วนกลางวัน ค้างคาวจะจับกลุ่มนอนรวมกันในถ้ำโดยห้อยหัวลง ด้วยความสามรถพิเศษในการบิน และ การใช้เสียงสะท้อนตรวจสอบทิศทาง ทำให้พวกมันหลบสิ่งกีดขวางได้ดีในความมืด เช่น ในถ้ำเขานุ้ย ก็เป็นที่อยู่ของค้างคาวจำนวนมาก

 
เชื่อหรือไม่...ต้นไม้เดินได้
     สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับต้นไม้ต้นนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ต้นไม้เดินได้จริง การที่ต้นไม้ชนิดหนึ่ง ไปเกิดอยู่บนคาคบของต้นไม้อีกชนิดหนึ่ง เป็นผลมาจากการพัดพาไปของลม หรือ สัตว์ที่กินเมล็ดไปถ่ายมูลทิ้งไว้ เมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสม ต้นไม้ก็สามารถเจริญต่อไปได้ พืชบางชนิดสามารถเดนทางได้ไกลหลายกิโลเมตร ซึ่งเป็นการผจญภัยของพืช ที่สัตว์สองเท้าอย่างเราคาดไม่ถึง
   
ไม้อากาศ

     "กระแตไต่ไม้" เป็นเฟินชนิดหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถพิเศษตรงที่พุ่มของมัน เป็นแอ่งเก็บเศษใบไม้ที่ร่วงหล่นเอาไว้ ใบไม้เหล่านี้จะค่อย ๆ ผุสลาย และปล่อยธาตุอาหารออกสู่รากของพวกมันโดยตรง ทำให้เฟินชนิดนี้มีชีวิตอยู่ได้โดยที่พวกมันไม่ต้องไปเบียดเบียนต้นไม้อื่น

     และด้วยความสามารถนี้ ทำให้พวกมันไม่ต้องหยั่งรากลงพื้นดินโดยตรงก็ได้ แต่จะเกาะอยู่กับต้นไม้อื่น เราจึงเรียกเฟินพวกนี้ว่า "ไม้อากาศ"

   
เทศบาลประจำ่ป่า

     "เห็ดรา" นับว่าเป็น "ผู้ย่อยสลาย" ที่มีบทบาทในการรักษาสมดุลให้กับธรรมชาติ โดยแทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ที่ตายแล้ว จึงช่วยให้พวกเราไม่ต้องจมอยู่กับกองภูเขาใบไม้ กิ่งก้านที่ร่วงหล่น หรือแม้กระทั่งลำต้นของพืชที่ตายแล้ว เห็ดรา จึงเปรียบเสมือน เทศบาลประจำป่านั้นเอง

     เชื้อราจำนวนหนึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อโรคกับคน สร้างปัญหาให้เกษตรกร ทำลายไม้ หรือปนเปื้อนมากับอาหาร แต่เชื้อราหลายชนิดก็ถูกนำมาใช้ในการผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ยาปฏิชีวนะ หรือวิตามิน

   
รากอากาศ

     "ตีนตะขาบเขียว" มักงอกรากอากาศเป็นแขนงเล็ก ๆ ออกจากข้างลำต้น แม้พวกมันจะเกาะแน่นกับเปลือกไม้ชนิดอื่น แต่ก็ไม้ทำอันตรายใด ๆ กับไม้ที่มันเกาะ เพียงแต่อาศัยปีนป่าเพื่อรับแสงเบื้องบน

     อีกส่วนหนึ่ง คือ ราก ที่ห้อยระโยงระยางอยู่ในอากาศ หากสังเกตดูใกล้ ๆ จะเห็นว่ามีสีเขียว ซึ่งเป็นรากที่สามารถสังเคราะห์แสงสร้างอาหารเองได้

   
รากไม้ประหลาด

   

     ในป่าดงดิบ มักพบต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่มีการพัฒนาระบบรากเพื่อให้สามารถพยุงลำต้นให้อยู่ได้ โดยเฉพาะบริเวณที่ชื้นแฉะ มีลมแรง และ ดินอ่อนนุ่ม

     ต้นไม้ที่อยู่บริเวณนี้ส่วนใหญ่ โคนต้นจะมีขนาดใหญ่ แผ่ขยายออกโดยรอบ เรีบกว่า "พูพอน" ถือเป็นรากที่ถูกพัฒนามาเพื่อค้ำยันและพยุงลำต้น เพื่อความอยู่รอด