คำระบุชนิด “mahidolae” ตั้งเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Notes from the Royal Botanic Garden, Edinburgh เล่มที่ 31 หน้า 131 ปี ค.ศ. 1971 จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Chermsirivatana s. n. ที่เก็บจากบริเวณสถานีรถไฟวังโพ จังหวัดกาญจนบุรี แล้วได้นำไปปลูกที่พิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพฯ (BK)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้เถา แตกพุ่มหนาแน่น ยาวได้ถึง 15 ม. มีขนคล้ายไหมหนาแน่นทั่วไป หูใบออกเป็นคู่ รูปเคียว ยาวประมาณ 1.5 ซม. ใบประกอบปลายคี่ เรียงเวียน แกนกลางยาว 8–18 ซม. ก้านยาวประมาณ 2.5 ซม. หูใบย่อยรูปเส้นด้าย ยาวประมาณ 5 มม. ใบย่อยมี 4–6 คู่ เรียงเกือบตรงข้าม รูปไข่หรือขอบขนาน ยาว 1.5–7.5 ซม. ปลายกลม มีติ่ง โคนกลมหรือรูปหัวใจตื้น ๆ เส้นแขนงใบข้างละ 5–8 เส้น ก้านใบย่อยยาว 2–4 มม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามซอกใบ ยาว 10–15 ซม. ใบประดับรูปใบหอก ยาว 1.5–3 ซม. ก้านดอกยาว 0.7–1 ซม. กลีบเลี้ยงรูปปากเปิด หลอดกลีบยาว 5–7 มม. กลีบบน 2 กลีบ รูปสามเหลี่ยม ยาว 3–6 มม. กลีบล่าง 3 กลีบ รูปแถบหรือรูปลิ่มแคบ ยาว 0.5–1 ซม. ดอกสีม่วงอ่อน กลีบกลางรูปรี ด้านในสีเข้ม พับงอกลับ ยาวประมาณ 2 ซม. ปลายมีติ่งแหลม โคนกลีบรูปหัวใจ มีสันนูนทั้งสองด้าน เส้นกลางกลีบเป็นร่อง มีสีเหลืองแต้มใกล้โคน โคนมีเดือยรูปสามเหลี่ยม 1 คู่ ยาวประมาณ 3 มม. กลีบปีกรูปขอบขนาน มีสีเข้ม ยาวประมาณ 1.5 ซม. กลีบคู่ล่างยาวเท่า ๆ กลีบปีก รูปคุ่ม เกสรเพศผู้ยาว 2–2.5 ซม. รังไข่ยาวประมาณ 1 ซม. รวมก้าน ก้านเกสรเพศเมียยาวประมาณ 2 ซม. ยอดเกสรเป็นตุ่ม ฝักรูปขอบขนาน ยาว 7–9 ซม. หนาประมาณ 3 ซม. ก้านผลยาวประมาณ 1.5 ซม. มี 1–2 เมล็ด สีน้ำตาล เกือบกลม ยาวประมาณ 1.5 ซม.
พบที่ลาว เวียดนาม ในไทยพบที่กาญจนบุรี ขึ้นตามที่โล่งในป่าเบญจพรรณที่เป็นหินปูน ความสูงประมาณ 100 เมตร ในเวียดนามพบจนถึงความสูงประมาณ 1,200 เมตร
เอกสารอ้างอิง:
Burtt, B.L. & Chermsirivathana, C.(1971). A second species of Afgekia (Leguminosae). Notes from the Royal Botanic Garden, Edinburgh 31(1): 131–133.