ยางกราด (Dipterocarpus intricatus Dyer )
ไม้ต้น ผลัดใบ หูใบรูปรี ยาวประมาณ 1.5 ซม. ใบรูปไข่หรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 10–25 ซม. ปลายมนกลม โคนเว้าตื้น เส้นแขนงใบข้างละ 10–15 เส้น เรียงจรดกันใกล้ขอบใบ ก้านใบยาว 2–5 ซม. ช่อดอกออกหนาแน่นช่วงปลายกิ่ง ยาวได้ถึง 10 ซม. ช่อแยกสองง่าม ยาว 7–10 ซม. มี 5–8 ดอก ก้านดอกยาว 1–2 มม. หลอดกลีบเลี้ยงมีครีบเป็นสัน 5 แนว พับไปมา กลีบยาวยาว 1.5–2 ซม. กลีบสั้นยาวประมาณ 3 มม. พับงอกลับ กลีบดอกยาว 3.5–4 ซม. ด้านนอกมีขนละเอียด เกสรเพศผู้ 30 อัน อับเรณูยาวประมาณ 4 มม. หลอดกลีบเลี้ยงหุ้มผลมีครีบเป็นปีกกว้าง 3–4 มม. พับไปมา หลอดกลีบยาวประมาณ 2 ซม. ปีกยาวยาว 6–7 ซม. ปีกสั้นยาวประมาณ 1 ซม. ขอบงอกลับ
พบในภูมิภาคอินโดจีน ในไทยพบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคตะวันตกเฉียงใต้ ขึ้นหนาแน่นตามป่าเต็งรังและที่ราบที่เป็นหินทราย ความสูงถึงประมาณ 800 เมตร
ชื่ออื่น: กราด (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ); กร้าย (ส่วย-สุรินทร์); จิก (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ); ชะแบง (สุรินทร์); ซาด (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ); ตราย (เขมร, ส่วย-สุรินทร์); ตะแบง (สุรินทร์); ตาด (นครราชสีมา); ยางกราด (สระบุรี); ลาง (ชลบุรี); สะแบง (สุรินทร์); เหียงกราด (เพชรบูรณ์, ราชบุรี); เหียงขน (ทั่วไป); เหียงน้ำมัน (ราชบุรี); เหือง (ระยอง)
ยางกราด: โคนใบเว้าตื้น ช่อดอกแยกสองง่าม หลอดกลีบเลี้ยงมีครีบเป็นปีกพับไปมา (ภาพ: ปรีชา การะเกตุ, ราชันย์ ภู่มา)