กระเบา (Hydnocarpus castaneus Hook.f. & Thomson )
ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. แยกเพศร่วมต้น มีขนรูปดาวสั้น ๆ ประปรายตามกิ่ง แผ่นใบด้านล่าง ช่อดอก ก้านดอก และกลีบเลี้ยง ใบรูปขอบขนาน รูปใบหอก หรือแกมรูปไข่ ยาว 10–30 ซม. ปลายแหลมยาว ขอบเรียบ ก้านใบยาวได้ถึง 2 ซม. ก้านดอกยาวได้ถึง 6 ซม. กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยาวประมาณ 8 มม. ดอกสีครีม กลีบรูปรี ยาวได้ถึง 1.4 ซม. เกล็ดที่โคนเรียวแคบ ขอบมีขนครุย เกสรเพศผู้ 5 อัน ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 4 มม. เกลี้ยง อับเรณูยาวประมาณ 3 มม. เป็นหมันในดอกเพศเมีย รังไข่มีขนหนาแน่น เป็นหมันในดอกเพศผู้ ออวุลมีขนยาว ผลรูปกลม เส้นผ่านศูนย์กลางยาวได้ถึง 12 ซม. มีขนสั้นนุ่มสีน้ำตาลหนาแน่น ผนังผลชั้นกลางหนาประมาณ 1 ซม. เมล็ดยาวประมาณ 2 ซม. มีขนยาว
พบที่พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู บอร์เนียว และสุมาตรา ในไทยพบกระจายทุกภาค ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา และป่าดิบชื้น ความสูงถึงประมาณ 1600 เมตร สารสกัดจากเมล็ดใช้ทาแก้โรคผิวหนังหลายชนิดรวมทั้งโรคเรื้อน
ชื่อพ้อง: Hydnocarpus anthelminthicus Pierre ex Laness.
ชื่อสามัญ:
Chaulmoogra
ชื่ออื่น: กระเบา (ทั่วไป); กระเบาค่าง (ยะลา); กระเบาแดง (ตรัง); กระเบาตึก (เขมร-ภาคตะวันออก); กระเบาน้ำ, กระเบาเบ้าแข็ง, กระเบาใหญ่,
กาหลง (ภาคกลาง); ตัวโฮ่งจี๊ (จีน); เบา (สุราฎร์ธานี); เบาดง (สตูล); มันหมู (ตรัง); หัวค่าง (ภาคใต้)
กระเบา: ใบเรียงเวียน โคนเบี้ยว ขอบเรียบ กลีบดอกสีครีม รูปรี เกสรเพศผู้ 5 อัน ผลรูปกลม มีขนสั้นนุ่มสีน้ำตาลหนาแน่น (ภาพ: Simon Gardner, อรุณ สินบำรุง)