โทงเทง (Physalis angulata L. )
ไม้ล้มลุก สูง 30–100 ซม. กิ่งเป็นเหลี่ยม ใบรูปรี รูปขอบขนาน หรือแกมรูปไข่ ยาว 3–6 ซม. ขอบเรียบหรือจักซี่ฟันห่าง ๆ คล้ายเป็นพูตื้น ๆ ก้านใบยาว 1–3 ซม. ดอกออกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบ ก้านดอกยาว 0.5–1.5 ซม. กลีบเลี้ยงยาว 4–5 มม. แยกเป็น 5 แฉกลึก ประมาณกึ่งหนึ่ง มีขนกระจาย ดอกรูประฆัง บานคล้ายกงล้อ สีเหลืองอ่อนหรืออมสีขาว โคนด้านในมีจุดสีน้ำตาลเรียงเป็นวง มีขนยาว หลอดกลีบดอกยาว 4–8 มม. ปลายแยกเป็น 5 แฉกตื้น ๆ รูปสามเหลี่ยมกว้าง เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดที่โคนหลอดกลีบดอก ก้านเกสรเพศผู้หนา ยาว 3–4 มม. รังไข่เกลี้ยง พลาเซนตารอบแกนร่วม ก้านเกสรเพศเมียยาวเท่า ๆ เกสรเพศผู้ ยอดเกสรจัก 2 พู ผลรูปรีเกือบกลม ยาว 1–1.2 ซม. กลีบเลี้ยงบาง ขยายหุ้มจนมิด มี 10 สัน ผิวเป็นเส้นร่างแห เมล็ดจำนวนมาก
เป็นวัชพืชทั่วไปในเขตร้อน ความสูงถึงประมาณ 1500 เมตร
สกุล Physalis L. มีประมาณ 75 ชนิด ส่วนใหญ่พบในอเมริกา ในไทยพบเป็นวัชพืช 2 ชนิด อีกชนิดคือ หญ้าต้อมต๊อก P. minima L. ก้านดอกสั้น ดอกและผลขนาดเล็กกว่า และมีที่นำเข้ามาปลูกเป็นไม้ผล ได้แก่ กูสเบอรี่ P. peruviana L. ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “physa” ถุง ตามลักษณะผล
ชื่อสามัญ: Chinese lantern plant, Cutleaf groundcherry, Gooseberry, Wild tomato
ชื่ออื่น: โซเซ, (สุราษฎร์ธานี); ต้อมต็อก (ภาคเหนือ); เตงหลั่งเช้า (จีน); ทุงเทง, โทงเทง (ภาคกลาง, ภาคตะวันตกเฉียงใต้); บาตอมต๊อก (ภาคเหนือ); ปิงเป้ง (หนองคาย); ปุงปิง (นครศรีธรรมราช, ปัตตานี); หญ้าต้อมต้อก (ภาคเหนือ); หญ้าถงแถง (อ่างทอง)
โทงเทง: กิ่งเป็นเหลี่ยม ดอกรูประฆัง มีขน บานคล้ายกงล้อ กลีบเลี้ยงบาง ขยายหุ้มจนมิด มี 10 สัน ผิวเป็นเส้นร่างแห (ภาพ: ราชันย์ ภู่มา)