สารานุกรมพืช

    ทังใบขนภูวัว (Litsea phuwuaensis Ngerns. )

    ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 2.5 ม. แยกเพศต่างต้น มีขนยาวสีน้ำตาลแดงหนาแน่นตามกิ่งอ่อน แผ่นใบ ใบประดับ และดอก ใบเรียงเวียน รูปขอบขนานถึงรูปใบหอก หรือแกมรูปไข่กลับ ยาว 7–25 ซม. ปลายแหลมยาวหรือยาวคล้ายหาง แผ่นใบด้านล่างมีนวล ก้านใบยาว 0.3–1 ซม. ช่อดอกแบบช่อซี่ร่มออกเป็นกระจุกตามซอกใบหรือกิ่ง ก้านช่อสั้น ช่ออ่อนมีใบประดับหุ้ม 2 คู่ เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก รูปไข่ ยาว 3.5–5 มม. ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียคล้ายกัน กลีบรวม 4–6 กลีบ รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก ยาว 2–2.5 มม. ก้านดอกยาว 1–2 มม. เกสรเพศผู้ 6–8 อัน เรียง 2 วง เป็นหมันในดอกเพศเมีย ก้านชูอับเรณูยาว 1.5–2.5 มม. มีขนยาว วงนอกยาวกว่าวงใน วงในมีต่อม 2 ต่อมที่โคน อับเรณูมี 4 ช่อง รังไข่เกลี้ยง ก้านเกสรเพศเมียยาว 1–2 มม. ผลรูปไข่ ยาว 0.8–1 ซม. ปลายมีติ่งแหลม หลอดกลีบที่ขยายอวบหนา ยาว 0.8–1.2 ซม. ก้านช่อผลยาวประมาณ 5 มม.

    พืชถิ่นเดียวของไทย พบที่ภูวัว จังหวัดบึงกาฬ และภูลังกา จังหวัดนครพนม ขึ้นใต้ร่มเงาหรือริมลำธารในป่าดิบแล้ง ความสูง 150–200 เมตร

    สกุล Litsea Lam. อยู่ภายใต้เผ่า Cinnamomeae มีเกือบ 400 ชนิด พบในอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง เอเชียเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยมี 35 ชนิด ลักษณะทั่วไปคล้ายสกุล Lindera ที่อับเรณูมี 2 ช่อง และ Neolitsea ที่อับเรณูมี 4 ช่อง แต่ส่วนต่าง ๆ ของดอกมีจำนวนสอง (dimerous) ซึ่งมีจำนวนสาม (trimerous) ในสกุล Litsea และ Lindera ชื่อสกุลมาจากภาษาจีน “litse” หมายถึงผลคล้ายผลพลัมขนาดเล็ก

      

      

    ทังใบขนภูวัว: มีขนยาวสีน้ำตาลแดงหนาแน่น ช่อดอกแบบช่อซี่ร่มออกเป็นกระจุกตามซอกใบ ใบประดับมี 2 คู่ หลอดกลีบขยายอวบหนาในผล (ภาพ: นันทวรรณ สุปันตี, ปรีชา การะเกตุ)