อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่กิ่งอำเภอเมืองปาน
อำเภอแจ้ห่มและอำเภอเมือง
จังหวัดลำปาง
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัด
มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์
เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร
มีสัตว์ป่านานาชนิด
และมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง
เช่น น้ำตก แอ่งน้ำอุ่น
บ่อน้ำพุร้อน
ซึ่งสามารถเป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงว่าใต้พื้นโลกเรายังมีความร้อนระอุอยู่
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง
มีเนื้อที่ประมาณ 592
ตารางกิโลเมตร หรือ370,000 ไร่

ประวัติความเป็นมา
ด้วยป่าไม้เขตลำปางได้มีหนังสือที่
กส 0709(ลป)/4181 ลงวันที่ 19 ตุลาคม
2524 เรื่อง
ขอกำหนดพื้นที่ป่าบริเวณน้ำตกแจ้ซ้อนเป็นวนอุทยาน
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงมีคำสั่งที่ 1648/2524
ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2524
ให้นายนฤทธิ์ ตันสุวรรณ
นักวิชาการป่าไม้ 6 ไปทำการสำรวจสรุปได้ว่า
สภาพป่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ๆมีจุดเด่นทางธรรมชาติสวยงามหลายแห่ง
มีน้ำตกและน้ำพุร้อนไหลตลอดปี
เหมาะจัดเป็นวนอุทยาน ในปีงบประมาณ 2526 กรมป่าไม้
จึงได้ดำเนินการจัดตั้งวนอุทยานแอ่งน้ำอุ่น
(วนอุทยานน้ำตกแจ้ซ้อน)บริเวณน้ำตกแจ้ซ้อน ตำบลแจ้ซ้อน
กิ่งอำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ซ้อน
จังหวัดลำปาง โดยอยู่ในความดูแลของสำนักงานป่าไม้เขตลำปาง
ต่อมากรมป่าไม้ได้มีหนังสือที่
กษ. 0713/13869 และ 13870 ลงวันที่ 2 สิงหาคม
2526
ถึงจังหวัดลำปางและป่าไม้เขตลำปาง
ขอความเห็นที่จะยกฐานะวนอุทยานน้ำตกแจ้ซ้อน
(วนอุทยานแอ่งน้ำอุ่น)
เป็นอุทยานแห่งชาติ
ซึ่งจังหวัดลำปางได้มีหนังสือด่วนมากที่
ลป. 0009/18356 ลงวันที่ 12 กันยายน 2526
และป่าไม้เขตลำปางได้ให้ความเห็นชอบและสนับสนุน
ในการที่จะกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ
เป็นการสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2526
ที่กำหนดให้จังหวัดลำปาง เป็นจังหวัดส่งเสริมการท่องเที่ยว
กองอุทยานแห่งชาติ
ได้กำหนดดำเนินการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมต่อมาเป็นระยะๆ
และกองอุทยานแห่งชาติ
สำนักป่าไม้เขตลำปาง
และส่วนราชการองค์กรภาคเอกชนของจังหวัดลำปาง
ได้เริ่มโครงการจัดตกแต่งวนอุทยานน้ำตกแจ้ซ้อน
เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2529 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2530
และเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์
2530 ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี(พลเอกเปรม ติณสูลานนท์)
ได้เดินทางไปตรวจราชการวนอุทยานน้ำตกแจ้ซ้อน
เกิดความประทับใจในธรรมชาติที่สวยงาม
จึงเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อวางแผนพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป
ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีเสนอ
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2530
และได้มีหนังสือแจ้งให้กรมป่าไม้ดำเนินการตามสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่
นร. 0202/2889 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2530
กองอุทยานแห่งชาติกรมป่าไม้
จึงมีคำสั่งที่ 388/2530 ลงวันที่ 4
มีนาคม 2530 ให้นายสุทัศน์ วรรณเลิศ
นักวิชาการป่าไม้
4ไปดำเนินการสำรวจพื้นที่ป่าบริเวณวนอุทยานน้ำตกแจ้ซ้อน
เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณากำหนดขอบเขตพื้นที่
เพื่อยกระดับฐานะวนอุทยานน้ำตกแจ้ซ้อนเป็นอุทยานแห่งชาติ
อีกทั้งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา)
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
อธิบดีกรมป่าไม้ และผู้อำนวยการกองอุทยานแห่งชาติ (นายธำมรงค์
ประกอบบุญ)ได้เดินทางไปเยี่ยมชมและร่วมพิจารณาความเหมาะสม
ในการวางแนวทางพัฒนาวนอุทยานน้ำตกแจ้ซ้อนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
เมื่อวันที่
6 มิถุนายน 2530
และกองอุทยานแห่งชาติ
กรมป่าไม้ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ
มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2530
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2530
เห็นชอบในการยกฐานะเป็นอุทยานแห่งชาติ
โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่สุก
ป่าแม่สอย ป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย ป่าแม่ตุ๋ยฝั่งขวา
ในท้องที่ตำบลแจ้ซ้อน
ตำบลเมืองปาน ตำบลบ้านขอ
ตำบลทุ่งกว้าง กิ่งอำเภอเมือง
อำเภอแจ้ห่มและตำบลบ้านคำ
อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
ให้เป็นอุทยานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2531
ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เล่ม 105 ตอนที่ 122 ลงวันที่ 28 กรกฎาคม
2531
นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งชาติลำดับที่
57 ของประเทศ |