อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

     
                          อุทยานแห่งชาติดอยภูคา  มีพื้นที่ประมาณ 1,065,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 8 อำเภอ ในจังหวัดน่านคือ อ.เฉลิมพระเกียรติ  อ.ทุ่งช้าง  อ.เชียงกลาง  อ.ปัว  อ.ท่าวังผา  อ.สันติสุข  อ.แม่จริม  อ.บ่อเกลือ  เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่า มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์  ทั้งเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย  เช่น  แม่น้ำน่าน  ลำน้ำปัว  ลำน้ำว้า  คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวจังหวัดน่าน  และยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์  กล่าวคือ  มีเรื่องเล่าขานแต่ครั้งโบราณ  ที่เชื่อกันว่าเทือกเขาดอยภูคา  เป็นเมืองเก่าของบรรพบุรุษของคนเมืองน่าน และในปัจจุบันนี้ยังมีศาลเจ้าพ่อหลวงภูคา  ตั้งอยู่อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 31 ถนนสายปัว-บ่อเกลือ  อันเป็นที่เคารพสักการะของบุคคลโดยทั่วไป ปี พ.ศ.2526  ราษฎรของ จ.น่าน ได้เห็นความสำคัญในการที่จะอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธาร เพื่อป้องกันการบุกรุกทำลาย  จึงได้มีหนังสือถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กำหนดป่าดอยภูคา อ.ปัว จังหวัดน่านให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ  อีกทั้งภายในบริเวณพื้นที่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ  เช่น ถ้ำ  น้ำตก  ต้นชมพูภูคา และแก่งต่างๆ ที่สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยว ประกอบกิจกรรมนันทนาการ และเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนทั้งประเทศและต่างประเทศ

                        

ประวัติความเป็นมา

                       ด้วย นายสมชาย โลหะชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่านได้มีหนังสือที่ 13/2526  ลงวันที่ 24    กันยายน พ.ศ. 2526   เรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายณรงค์ วงศ์วรรณ) ว่าได้รับการร้องขอจากราษฎรขอให้กำหนดป่าดอยภูคา อำเภอปัวเปีย จังหวัดน่าน เป็นอุทยานแห่งชาติ เนื่องจากยอดดอยภูคาเป็นยอดเขาสูงสุดของจังหวัดน่านอันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดโดยมีความสูงถึง 1,980 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นป่าต้นน้ำลำธารที่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำน่าน มีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีการเล่าขานกันมาแต่ครั้งโบราณและเชื่อมั่นว่าเมืองเก่าของบรรพบุรุษคนเมืองน่านอยู่ในเขตบนเทือกเขาดอยภูคา ประกอบกับกองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ได้มีหนังสือ ที่ กกห 0483 (สน)/95 ลงวันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2527 แจ้งว่า ได้พบสภาพพื้นที่ป่าบริเวณบ้านปู จังหวัดน่าน พิกัดเส้นตรง  18 - 35 และเส้นราบ 07 - 70 ตามแผนที่มาตราส่วน 150,000  มีความอุดมสมบูรณ์และธรรมชาติที่สวยงาม และพื้นที่บริเวณพิกัด คิว เอ 2686  มีน้ำตกที่มีความสวยงามขนาดใหญ่สมควรที่จะได้มีการออกประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งกองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้มีคำสั่งที่ 1786/2526 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2526 ให้ นายปัญญา ปรีดีสนิท  นักวิชาการป่าไม้ 6 ไปสำรวจพื้นที่เบื้องต้นดังกล่าว ปรากฏว่าสภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำลำธารสัตว์ป่าชุกชุม เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์   และมีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามหลายแห่ง กรมป่าไม้จึงได้มีคำสั่งที่ 1641/2528  ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2528 ให้นายวันชัย ปานเกษม เจ้าพนักงานป่าไม้ 4 มาดำเนินการสำรวจจัดตั้งพื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ      ผลการสำรวจตามหนังสือที่    กษ 0713(ภค)/28   ลงวันที่   11 พฤษภาคม พ.ศ.2530 ปรากฏว่าป่าพื้นที่ดอยภูคาและบริเวณใกล้เคียง มีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติกองอุทยานแห่งชาติได้นำเรื่องการจัดการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เสนอในการประชุมผู้อำนวยการกองในสังกัดกรมป่าไม้ ครั้งที่ 12/2531 ลงวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2531 ได้มีมติให้ ดำเนินการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติดอยภูคาต่อไป กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2531 ลงวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2531 เห็นชอบให้กำหนดพื้นที่ป่าดอยภูคาเป็นอุทยานแห่งชาติ ต่อมาได้มีการประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาแนวเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา  เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2542

 
     

Back / ับ

จุดเด่นที่น่าสนใจ

ลักษณะทั่วไป

การเดินทางและบริการที่พัก