ที่ตั้งและลักษณะภูมิประเทศ
สถานีวิจัยลุ่มน้ำขุนสถาน ตั้งอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 20o 30/
ถึง 24o 30/ เหนือ และเส้นแวงที่ 57o
ถึง 62o 40/ ตะวันออก ในท้องที่อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเนินเขา และภูเขาซึ่งสูงจาก ระดับน้ำทะเลปานกลาง
1,000 - 1,728 เมตร มีความลาดชันด้านข้างสูงเฉลี่ย ประมาณ 35
- 40 % เป็นพื้นที่ ต้นกำเนิดน้ำแหง ก่อนที่จะไหลมารวมกับลำน้ำอื่น
ๆ ในลุ่มน้ำน่าน
ลักษณะทางอุทกวิทยา
สถานีวิจัยลุ่มน้ำขุนสถาน มีพื้นที่ลุ่มน้ำทดลองที่รับผิดชอบอยู่ประมาณ
8,750 ไร่ ควบคุม
ลุ่มน้ำย่อย คือ ลุ่มน้ำห้วยส้มทั้งหมด
ลักษณะทางปฐพีวิทยา
จากความเย็นและชื้นของอากาศ ทำให้การสลายตัวของหินต้นกำเนิดดินพวก
sandstone granite และ slate เป็นไปอย่างช้า ทำให้ดินส่วนใหญ่เป็นพวก
Red-Yellow Podzolic และ Reddish Brown Lateritic เป็นชั้นบาง ๆ เคลือบอยู่บนชั้นหินซึ่งบางแห่งแทบจะไม่มีดินอยู่เลย
โดยมีลักษณะ เป็นดินผสมหิน
ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปีมีอุณหภูมิเฉลี่ย 19.9 oC
มีอุณหภูมิสูงสุดในเดือน เมษายน เฉลี่ย 27.4 oC และต่ำที่สุดในเดือนธันวาคม
และมกราคม เฉลี่ย 12.6 oC ในรอบปีมีฝนตก ประมาณ 10
เดือน เริ่มจาก เดือนมีนาคมถึงเดือนธันวาคม มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปีประมาณ
2,134 มม. ฝนตกมากในเดือนพฤษภาคม 403.2 มม.
ปริมาณการระเหยทั้งปี 11,892 มม. หรือ
57.72 % ของฝนที่ตกลงมาทั้งหมด จากอุณหภูมิที่ต่ำและ
ฝนตกชุก จึงทำให้อากาศมีความชื้นโดยเฉลี่ย
79.9 %
ลักษณะพืชพรรณและการใช้ประโยชน์ที่ดิน
สำหรับพื้นที่สวนป่านั้นเดิมเป็นป่าดิบเขาที่อุดมสมบูรณ์
ต่อมาถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำการเกษตรโดย ชาวเขาเผ่าม้งขุนสถาน จนกระทั่งดินเสื่อมค่าลง
จึงถูกปล่อยทิ้งไว้เป็นไร่ร้าง มีหญ้าคาขึ้นปกคลุม จึงได้มีการปลูก ป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่ต้นน้ำลำธารให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
ชนิดไม้ที่ปลูก คือ ยูคาลิปตัส
คามาลคูเลนซิส และ สนสามใบ แม้จะมีอากาศเย็น และดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ
แต่ความต้องการที่ดินในการยังชีพยังมีแนวโน้มสูง พื้นที่ป่าดิบเขาดั้งเดิมที่ประกอบไปด้วย
ไม้ก่อชนิดต่าง ๆ จำปีป่า เหมือดคน และมณฑา จึงถูกแผ้วถางลงเป็น
จำนวนมาก เพื่อเพาะปลูกพืชเกษตรต่าง ๆ ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวไร่ ท้อ กะหล่ำปลี
เป็นต้น
|