|
ตำนานทะเลน้อย |
ขุนวิจารณ์จรรยา อดีตศึกษาธิการจังหวัดพัทลุง เคยเล่าให้ฟังว่า
เดิมทะเลน้อยเป็นที่ลุ่ม มีไม้ตะเคียนขึ้นอยู่หนาแน่น
ต่อมาเกิดไฟไหม้ป่าเป็นบริเวณกว้างขวาง สันนิษฐานว่าเมื่อประมาณ
400 ปีมาแล้ว ยังมีตอไม้ตะเคียนขนาดใหญ่เหลืออยู่เป็นจำนวนมาก
นานปีเข้าถูกโคลนตมทับถม ขุดลึกไปจากผิวน้ำประมาณ 2
เมตร ก็จะพบตอไม้เหล่านี้เหลืออยู่ในทะเลน้อยอีกเป็นจำนวนมาก
สายน้ำจากคลองตลิ่งชัน คลองป่าพะยอม ไหลมาลงที่ลุ่มแห่งนี้
กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่เรียกชื่อแอ่งน้ำนี้ว่า ทะเลน้อย
นายสุข ทองพูลเอียด อดีตกำนันตำบลพนางตุงเขียนในหนังสือประวัติวัดทะเลน้อย
กล่าวถึงคำบอกเล่าของขุนทิพย์โอสถหรือขุนพลโยธา นายกองที่คุมพลไปรบไทรบุรี
ที่สอดคล้องกันว่าฒคนเฒ่าคนแก่ก่อนๆ นั้นเล่าว่าสมัยหนึ่งเมื่อประมาณ
700 ปีมาแล้ว พระเจ้ากรุงสุโขทัยแผ่อำนาจลงมาทางปักษ์ใต้
และต่อมาเรียกว่าภาคใต้ ได้เกณฑ์ให้เจ้าเมืองเกณฑ์ราษฎรตัดฟันต้นไม้มา
ต่อเรือรบเพื่อลำเลียงพลไปตีหัวเมืองมลายูทางใต้ การตัดไม้มาต่อเรือในครั้งนั้นได้มาตัดไม้ตะเคียนในป่าที่เป็นทะเลน้อยเดี๋ยวนี้
ส่วนเจ้าเมืองที่เกณฑ์ราษฎรมานั้นจะเป็นเจ้าเมืองพัทลุง
หรือเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชไม่ปรากฏชัดเจน ครั้นต่อมา
1-2 ปีหลังจากทางการได้เกณฑ์ให้ราษฎรตัดไม้ตะเคียนต่อเรือในครั้งนั้นเองฝนเกิดแล้งเป็นเวลา
3 ปีติดต่อกัน แม้ถึงฤดูฝนฝนตกน้อย แต่เมื่อพ้นฤดูฝนแล้วมันแล้งเอาจริงๆ
เป็นเวลาหลายเดือน เป็นอยู่อย่างนี้ทั้ง 3 ปีติดต่อกันจึงเกิดไฟไหม้ป่าขึ้น
เฉพาะป่าที่เป็นป่าขึ้น เฉพาะป่าที่เป็นทะเลน้อยนี้ไฟไหม้อย่างแรงเพราะปลายไม้ตะเคียนที่ตัดทิ้งที่ตัดทิ้งเอาไว้เป็นเชื้อไฟอย่างดี
ตามว่าไฟได้ไหม้ลึกลงสู่พื้นดินบางแห่งตั้งเมตรครึ่งก็มี
กว้าง ยาว เป็นเนื้อที่หลายพันไร่พอฝนตกน้ำขังในที่แห่งนี้ก็กลายเป็นบึงกว้างใหญ่ต่อมาในบึงก็เป็นที่อยู่อาศัยของฝูงจระเข้
ช้างป่า กระบือฝูงเหยียบย่ำผัด1 มัน นานวันเข้าที่แห่งนี้จึงค่อยๆ
ลึกลงไปและกว้างออกไปทุกทีเมื่อเป็นคลื่น คลื่นก็เซาะตลิ่งออกไปบ้างจนทุกวันนี้
(พ.ศ. 2498) ทะเลน้อยยังกว้างออกไปอีกตลอดเวลา เมื่อข้าพเจ้ายังหนุ่มๆ
เคยเที่ยวไปในทะเลน้อยและทะเลสาบได้พบเห็นตอไม้ตะเคียนและขอนไม้อื่นๆ
เช่น ของไม้ตำเสา มีอยู่เกือบทั่วไปในทะเลน้อยและริมทะเลสาบนี้
แสดงให้เห็นว่าเคยเป็นป่าดงไม้ตะเคียนและไม้อื่นมาก่อน
_____________________________________
1ผัดเป็นภาษาท้องถิ่นหมายถึง การเหยียบ ย่ำ ลุย บด จนแหลก
กลับสู่หน้าหลัก
|
|
“โลกแห่งธรรมชาติ
เพื่อการเรียนรู้คุณค่า ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พื้นที่ชุ่มน้ำและส่งเสริม
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทะเลน้อย” |
|
|
|
|
|
|