ปลวก (Termites)

ชื่อสามัญ ปลวก

วงศ์ Rhinotermitidae, Termitidae, Kalotermitidae

พืชอาหาร

ยูคาลิป (Eucalyptus spp.) สัก (Tectona grandis Linn.f.) กระถินเทพา (Acacia mangium Willd.) สนเขา (Pinus spp.) สนฉัตร (Araucaria excelsa R.Br.) เต็ง (Shorea obtusa Wall.) รัง (Shores siamensis Miq.) ซ้อ (Gmelina arborea Roxb.) ยางพารา (Hevea brasiliensis Muell.) และไม้อื่นๆ อีกจำนวนมาก

ลักษณะทั่วไป

ปลวก เป็นแมลงที่อยู่กันเป็นกลุ่ม มีสังคมต่าง ๆ แบ่งเป็นวรรณะได้แก่ ปลวกงาน ปลวกทหาร ปลวก สืบพันธุ์ กลุ่มที่นำแยกชนิดได้มักจะใช้ปลวกทหาร หรือปลวกสืบพันธุ์ ซึ่งมีลักษณะที่บอกถึงความแตกต่างของปลวกแต่ละชนิด ปลวกทหาร: หัวและหนวดสีเหลือง เขี้ยวหรือฟันส่วนที่เป็นคีม สีน้ำตาลแดง บริเวณโคนฟันเหลืองน้ำตาล ส่วนหัวมีต่อมที่เป็นรูเห็นได้ชัด 1 รู เรียก frontal grand เมื่อถูกรบกวนจะปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมา ปลวกทหารมีอยู่ปริมาณ 12% ของปลวกในรัง ปลวกสืบพันธุ์: ตัวเล็กสีน้ำตาลดำ ปีกสีเงิน ว่องไว

ความสำคัญ

ปลวกทำลายรากของกล้าไม้สำหรับต้นไม้ที่โตแล้ว ถ้าอ่อนแอและอยู่ในสภาวะแห้งแล้งปลวกจะกิน เปลือกของลำต้นและค่อย ๆ กินลึกเข้าไปถึงเนื้อไม้และทำให้ต้นไม้ตายได้

ปลวกมักเป็นปัญหากับกล้าสักในแปลงเพาะมีผลทำให้กล้าสักตายเป็นจำนวนมากได้ ปัญหาปลวกกัด กินเหง้าของกล้าสักมักจะเกิดขึ้นในฤดูแล้ง เนื่องจากปลวกชนิดนี้ต้องอาศัยความชื้นด้วยจึงกัดกินเหง้าของกล้าสักโดยอาศัยอาหารและความชื้นของเหง้าสักเพื่อดำรงชีพ นอกจากพบว่าปลวกกัดกินเหง้าของกล้าสักแล้วยังพบว่าต้นสักและยูคาลิปตัสที่ปลูกทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีอายุระหว่างตั้งแต่ย้ายปลูกจนถึงอายุ 2 ปี ได้รับความเสียหายจากปลวกเป็นประจำ

ชีวประวัติและนิสัย

ปลวกมี 2 จำพวก คือพวกที่ต้องการความชื้นสูงจะทำลายไม้ที่มีความชื้น และปลวกที่ต้องการความชื้นน้อยกว่าจะทำลายไม้แห้ง ปลวกทำลายไม้ที่มีความชื้นจะทำลายไม้ที่ล้มขอนนอนตามพื้นดินหรือไม้ตามบ้านเรือนที่มีความชื้น ในป่าไม้ ปลวกที่ต้องการความชื้นจะกัดกินรากและลำต้นโดยปลวกบางชนิดทำ รังส่วนหนึ่งอยู่เหนือพื้นดิน ส่วนหนึ่งอยู่ใต้ดิน ส่วนที่อยู่ใต้ดินลึกประมาณ 30-60 ซม. และเป็นทางยาว ถึง 90 เมตร รังที่อยู่ตามต้นไม้เห็นเป็นดินพอกที่ลำต้นบางต้นสูง 4 เมตร ดินที่พอกต้นไม้ทำหน้าที่ป้องกันแสงแดดและรักษาความชื้นให้กับปลวก และยังป้องกันภัยจากแมลงอื่นด้วย

ปลวกมีลำตัวนิ่ม ผิวบาง เมื่อสัมผัสอากาศผิวจะแห้งได้ง่าย ปลวกจึงต้องมีรังปกคลุมมิดชิดหรือดินพอกทางเดินเพื่อรักษาความชื้นให้สูงไว้เสมอ ดังนั้นในสภาวะที่แห้งแล้งปลวกจึงชอบต้นไม้ที่มีชีวิตเพราะมีความชื้นมากกว่าไม้ที่ล้มขอนอยู่

การป้องกันกำจัด

ในที่ที่พบว่าปลวกทำลายต้นไม้อยู่เดิม ควรทำการป้องกันก่อนปลูกพืชโดยเก็บซากพืชและเศษไม้ออกจากแปลง ใช้สารเคมีโรยรอบโคนต้นไม้ในสวนป่าหรือผสมน้ำราดตามที่ปลวกอาศัยอยู่แล้วแต่ความเหมาะสม สารเคมีทั่วไปที่ใช้ทั้งป้องกันและกำจัดได้เช่น ฟูราดาน คลอร์ไพริฟอส หรือ เดอร์สแบน ลอร์สแบน ดาวโก 179 และเลนเทร็ด 400 เป็นต้น สารเคมีที่กล่าวข้างต้นมีฤทธิ์ตกค้างนานยกเว้นฟูราดาน ซึ่งมีฤทธิ์ตกค้างเพียง 45 วัน สารเคมีเหล่านี้สามารถใช้รองก้นหลุมก่อนปลูกได้ หรือใช้ฟูราดานใส่ในถุงกล้าไม้ก่อนนำไปปลูกจะป้องกันได้ดีที่สุด และยังสามารถกำจัดหนอนของด้วงที่กัดกินรากสักได้อีกด้วย

ปลวก (Termite, white ant: Isoptera)

ลักษณะของปลวก

ปลวกมีลักษณะคล้ายมดแต่ตัวสีขาว ทางเดินของปลวกมักจะมีดินหุ้มเพื่อรักษาความชื้นซึ่งจะเห็นดินเป็นทางยาวตามลำต้นสักหรือเป็นปื้นเป็นแผ่นหุ้มทั้งลำต้น ปลวกอยู่รวมกันเป็นสังคมรังของปลวกอาจเป็นจอมปลวกเหนือดินหรืออยู่ใต้ดินซึ่งมองไม่เห็น

การทำลาย ปลวกประเภทนี้ทำความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือน ไม้ล้มขอนนอนตามพื้นและต้นไม้ที่มีชีวิตอยู่ได้ ปลวกสามารถกัดกินเหง้าของกล้าสัก โดยอาศัยอาหารและความชื้นของเหง้าสักเพื่อดำรงชีพมีผลทำให้กล้าสักตายเป็นจำนวนมากได้ ปัญหาปลวกกัดกินเหง้าของกล้าสักมักจะเกิดขึ้นในฤดูแล้ง

การป้องกันกำจัด

ใช้สารเคมีโรยรอบโคนต้นไม้ในสวนป่าหรือผสมน้ำราดตามที่ปลวกอาศัยอยู่แล้วแต่ความเหมาะสม สารเคมีทั่วไปที่ใช้ทั้งป้องกันและกำจัดได้เช่น ฟูราดาน คลอร์ไพริฟอส หรือ เดอร์สแบน ลอร์สแบน ดาวโก 179 และเลนเทร็ด 400 เป็นต้น สารเคมีที่กล่าวข้างต้นมีฤทธิ์ตกค้างนานยกเว้นฟูราดานซึ่งมีฤทธิ์ตกค้างเพียง 45 วัน สารเคมีเหล่านี้สามารถใช้รองก้นหลุมก่อนปลูกได้ และยังสามารถกำจัดหนอนของด้วงที่กัดกินรากสักได้ด้วยปัจจุบันสารเคมีจำพวกไพรีทรอยด์สามารถกำจัดปลวกได้ด้วยเช่นกันแต่มีฤทธิ์ตกค้างสั้นแต่มีความปลอดภัยกว่าสารที่กล่าวมาข้างต้น จึงนิยมใช้กับไม้ตามบ้านเรือน


Last updated: 2000.07.18, Robert Cunningham