พััััััันธุ์ไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 
    ได้ทรงโปรดพระราชทานกล้าไม้มงคลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด  นำไปปลูกเป็นศิริมงคลในวันเริ่มโครงการ
ในงานรณรงค์โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ฯ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2537 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 


กะบก (Irvingia malayana Oliv. ex Benn.)

พันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลจังหวัดร้อยเอ็ด

ชื่อวิทยาศาสตร์ Irvingia malayana Oliv. ex Benn.

วงศ์ IRVINGIACEAE

ชื่ออื่น  หมากบก มะมื่น มะลื่น หลักกลาย

ไม้ต้น  ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10 - 30 เมตร ผลัดใบ 

เปลือก  สีเทาอ่อนปนน้ำตาลค่อนข้างเรียบบางทีแตกเป็นสะเก็ด เรือนยอดเป็นพุ่มแน่นทึบ กลมรี 

ใบ  ใบเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบรูปมนแกมรูปขอบขนานจนถึงรูปหอก กว้าง 2.5 - 9 เซนติเมตร ยาว 8 - 20 เซนติเมตร ผิวใบเกลี้ยง เนื้อหนา โคนใบมนปลายใบทู่ถึงแหลม หูใบโค้ง ม้วนหุ้มยอดอ่อน ยาวถึง 3 เซนติเมตร 

ดอก  ดอกเล็กสีขาวปนเขียวอ่อน 

ผล  กลมรีเมื่อสุกสีเหลือง   เมล็ดแข็ง เนื้อในเมล็ดขาวมีรสมัน

นิเวศวิทยา ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้ง และป่าดิบแล้งทั่วไป ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 150 - 300 เมตร การผลัดใบจะผลัดใบหมดทั้งต้นและผลิใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว

ออกดอก มกราคม - มีนาคม เป็นผล กุมภาพันธ์ - เมษายน

ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด

ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้เผาถ่าน ได้ถ่านดีให้ความร้อนสูง เนื้อไม้เสี้ยนตรง แข็งมาก   ใช้ทำเครื่องมือกสิกรรม เมื่ออาบน้ำยาโดยถูกต้องแล้วใช้ในการก่อสร้างที่อยู่ในร่มที่ต้องการความแข็งแรงได้ เนื้อในเมล็ดใช้รับประทานได้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดใช้ทำอาหาร สบู่ เทียนไข ผลสุกเป็นอาหารพวกเก้งกวางและนก

นิเวศวิทยา ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้ง และป่าดิบแล้งทั่วไป ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 150 - 300 เมตร การผลัดใบจะผลัดใบหมดทั้งต้นและผลิใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว

ออกดอก มกราคม - มีนาคม เป็นผล กุมภาพันธ์ - เมษายน

ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด

ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้เผาถ่าน ได้ถ่านดีให้ความร้อนสูง เนื้อไม้เสี้ยนตรง แข็งมาก   ใช้ทำเครื่องมือกสิกรรม เมื่ออาบน้ำยาโดยถูกต้องแล้วใช้ในการก่อสร้างที่อยู่ในร่มที่ต้องการความแข็งแรงได้ เนื้อในเมล็ดใช้รับประทานได้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดใช้ทำอาหาร สบู่ เทียนไข ผลสุกเป็นอาหารพวกเก้งกวางและนก